ผลสำรวจความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ภายในประเทศ (ทังกัน) ซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปีในเดือนมี.ค. หลังภาคการส่งออกของญี่ปุ่นทรุดหนัก ส่งผลให้ภาคเอกชนลดการลงทุนและปลดพนักงานเพิ่มอย่างต่อเนื่อง
โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าผลสำรวจทังกันอาจลดลงสู่ระดับลบ 55 จุดในเดือนมี.ค. จากลบ 24 จุดในเดือนธ.ค. ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2518 และถือว่าร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ที่ทางธนาคารกลางเริ่มทำการเก็บข้อมูลดังกล่าว ส่วนตัวเลขอย่างเป็นทางการจะได้รับการเปิดเผยในวันที่ 1 เม.ย.นี้
โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และ ชาร์ป คอร์ป คาดการณ์ว่าบริษัทอาจประสบภาวะขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีในปีงบการเงินปัจจุบัน หลังยอดขายในต่างประเทศร่วงลงอย่างหนัก โดยเมื่อเดือนก.พ.ยอดส่งออกของญี่ปุ่นร่วงลงเกินคาดกว่า 49.4% ในขณะเดียวกันองค์การการค้าโลกก็คาดการณ์ว่าการค้าทั่วโลกจะหดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
"ภาคเอกชนแทบทุกแห่งต่างต้องพยายามไม่ให้ขาดทุน 2 ปีงบการเงินติดต่อกัน" ทาเคฮิโระ ซาโตะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากมอร์แกน สแตนลีย์ ในโตเกียว กล่าว "หลายบริษัทถึงขั้นต้องปรับโครงสร้างองค์กรขนานใหญ่เลยทีเดียว"
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในญี่ปุ่นต่างมีแผนลดการลงทุนลงถึง 12% ในปีงบการเงินหน้าซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 เม.ย. ซึ่งจะถือว่าเป็นการลดการลงทุนครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ปี 2526 ทั้งนี้ การใช้จ่ายภาคธุรกิจมีสัดส่วนกว่า 15% ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมด ดังนั้นการลดการลงทุนอาจทำให้เศรษฐกิจถดถอยหนักกว่าเดิม
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นหดตัวลง 12.1% ในไตรมาสที่แล้ว ซึ่งถือว่าหดตัวมากสุดนับตั้งแต่ปี 2517 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤตน้ำมัน และหดตัวมากสุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ในขณะเดียวกัน มาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ก็คาดการณ์ว่าสภาพการณ์ดังกล่าวจะยัง "หนักหน่วง" เช่นเดิมในไตรมาส 2 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน