รมว.คลังสหรัฐเผยยังมีแบงค์ในสหรัฐที่ต้องการเงินช่วยเหลือจำนวนมากจากรัฐบาล

ข่าวต่างประเทศ Monday March 30, 2009 12:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยว่า สถาบันการเงินและแบงค์บางส่วนอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นเงินจำนวนมาก พร้อมกับเตือนเรื่องความพยายามที่จะเก็บภาษีนักลงทุนหรือบริษัทที่ได้เข้าร่วมโครงการของรัฐบาลในการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ด้อยคุณภาพจากธนาคารต่างๆ

ไกธ์เนอร์ ให้สัมภาษณในรายการ “This Week" ทางเอบีซี นิวส์ ว่า แบงค์บางรายต้องการเงินช่วยเหลือจำนวนมาก แต่เงื่อนไขของโครงการประชาชนและเอกชนมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือธนาคารต่างๆนั้นไม่สามารถนำไปเปลี่ยนแปลงให้กับนักลงทุนได้ มิเช่นนั้นนักลงทุนจะไม่มีความมั่นใจในแผนการณ์

คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังคงต้องดำเนินการเพื่อกอบกู้ระบบการเงินของสหรัฐ ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับความวิตกกังวลของประชาชนผู้เสียภาษีที่ว่า การให้ความช่วยเหลือบริษัทในย่านวอลล์สตรีทนั้นมีความเสี่ยงมากเกินไป หลังจากที่ได้จัดสรรวงเงินประมาณ 80% หรือ 7 แสนล้านดอลลาร์ที่สภาคองเกรสได้อนุมัติไว้แล้ว เจ้าหน้าที่ต้องการเปิดกว้างสำหรับทางเลือกที่จะแก้ปัญหา

บลูมเบิร์กรายงานว่า ไกธ์เนอร์กล่าวว่า กระทรวงคลังสหรัฐมีกองทุนเพื่อสร้างเสถียรภาพการเงินประมาณ 1.35 แสนล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นว่า กระทรวงต้องการใช้งบประมาณเพิ่มเติมเพื่อการนี้หรือไม่ แต่ถ้าถึงจุดนั้น กระทรวงก็จะหารือกับคองเกรส และตัดสินใจดำเนินการ ความเสี่ยงก็คือว่า เราลงมือแก้ปัญหาน้อยไปเพื่อฟื้นวิกฤตสินเชื่อและเศรษฐกิจ ที่ผ่านมา ธนาคารจำเป็นต้องแสดงให้เห็นถึงความเต็มใจมากขึ้นในการแบกรับความเสี่ยง และฟื้นฟูการปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจ เพื่อที่เศรษฐกิจสหรัฐจะได้ฟื้นตัวจากภาวะถดถอย และการที่จะทำเช่นนี้ได้ เราต้องทำให้แบงค์เปิดโอกาสและแบกรับความเสี่ยงอีกครั้ง



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ