ธนาคารโลกชี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในปีนี้จะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออก แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคจะอ่อนตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 10 ปีก็ตาม
ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออก ซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินเดียนั้น คาดว่า จะขยายตัว 5.3% ในปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติที่ต่ำกว่าการประเมินเมื่อเดือนธ.ค.ที่ 6.7% ส่วนการขยายตัวของเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 8%
บลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลของประเทศต่างๆในเอเชียได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมมูลค่ากว่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการลดภาษี และการกระจายเงินสด เพื่อลดผลกระทบจากการค้าทั่วโลกที่องค์กรการค้าโลกคาดการณ์ว่า จะดิ่งลง 9% ในปีนี้ ทางด้านนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า ปัจจัยชี้นำทางเศรษฐกิจของจีนเองก็ชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.85 แสนล้านดอลลาร์เริ่มเห็นผล
ธนาคารโลกระบุว่า จีนยังคงเป็นประเทศที่มีอนาคตสดใสในภูมิภาค ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังจะฟื้นตัวขึ้น ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้นั้น การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของจีนพุ่งขึ้น 26.5% เมื่อเทียบกับระดับปีที่แล้ว โดยอัตราการปล่อยกู้ล็อตใหม่ของธนาคารในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ขณะที่ยอดขายยานยนต์เพิ่มขึ้น 25% ในเดือนเดียวกัน ทางด้านนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน กล่าวว่า เศรษฐกิจจีนอาจจะขยายตัวได้ตามเป้าที่ 8% ในปีนี้
รายงานของธนาคารโลกระบุว่า หากภาวะวิกฤตการเงินโลกย่ำแย่และดีมานด์ทั่วโลกตกลงไปมากกว่านี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนก็ยังคงฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงครึ่งของปี ซึ่งจะช่วยชดเชยเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงในช่วงครึ่งปีแรก
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกอาจจะหดตัวลงเป็นครั้งแรก รับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งการค้าทั่วโลกดิ่งลงมากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่