ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร-เยน หลังยอดขาดดุลการค้าสหรัฐลดลง

ข่าวต่างประเทศ Friday April 10, 2009 07:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กและข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ รวมถึงยอดขาดดุลการค้าและตัวเลขว่างงานที่ปรับตัวลดลง ทำให้นักลงทุนตัดสินใจเข้าซื้อสกุลดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ดิ่งลงแม้ธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.80% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.51 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 99.710 เยน/ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้น 0.69% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1556 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1477 ฟรังค์/ดอลลาร์

ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.75% แตะระดับ 1.3159 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.3258 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์ดิ่งลง 0.16% แตะระดับ 1.4675 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4698 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดตัวขึ้น 1.28% แตะที่ 0.7183 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7092 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.88% แตะระดับ 0.5831 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5780 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

สจ๊วต เบนเน็ต นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจากธนาคารคาลิยงกล่าวว่า นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างคึกคักหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ที่คาดการณ์ว่าจะสามารถทำกำไรในไตรมาสแรกได้ราว 3 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากธุรกิจด้านการปล่อยกู้ที่แข็งแกร่งขึ้น

ตลาดน้ำมันปริวรรตเงินตรานิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.พ.ร่วงลง 28.3% แตะที่ 2.597 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีพ.ศ.2542 ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 เม.ย.ลดลง 20,000 ราย แตะระดับ 654,000 ราย จากรอบสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ 674,000 ราย

ขณะที่สกุลเงินปอนด์ดิ่งลงแม้ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ในการประชุมเมื่อเย็นวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่ได้มีการลดดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอย

ที่ผ่านมา นอกจากธนาคารกลางอังกฤษได้ตัดสินใจลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจของประเทศแล้ว ธนาคารฯยังได้นำมาตรการผ่อนคลายทางการเงินมาใช้เพื่อกระตุ้นการปล่อยกู้ และจนถึงขณะนี้ได้มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบแล้ว 2.64 หมื่นล้านปอนด์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ