ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งสภาคองเกรสว่า ธนาคารส่วนใหญ่มีทุนสำรองเพียงพอที่จะปกป้องการขาดทุนได้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังมีความจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มเพื่อให้มีคุณสมบัติตามแผนทดสอบความสามารถในการรักษาฐานะทางการเงิน (stress test) และรัฐบาลจำเป็นต้องหาทางออกในเรื่องการระดมทุนให้กับธนาคารด้วย
กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังดำเนินการตรวจสอบ stress test ของ 19 ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ภายในประเทศ เพื่อประเมินว่าสถาบันการเงินแต่ละแห่งมีเงินทุนเพียงพอที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ โดยสถาบันการเงินเหล่านี้รวมถึง ซิตี้กรุ๊ป, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, แบงค์ ออฟ อเมริกา, โกลด์แมน แซคส์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, มอร์แกน สแตนลีย์ และธนาคารเวลล์ส ฟาร์โก ซึ่งกระทรวงการคลังจะเปิดเผยผลการตรวจสอบ stress test ในวันที่ 4 พ.ค.นี้
ไกธ์เนอร์กล่าวต่อคณะกรรมาธิการว่า "ธนาคารส่วนใหญ่สามารถจ่ายเงินต้นคืนให้กับรัฐบาลได้ หากรัฐบาลเปิดโอกาสให้ธนาคารสามารถระดมทุนจากนักลงทุนเอกชนหรือวิสาหกิจที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ด้วยการออกหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิ์ ซึ่งอาจทำใด้ทั้งสองทางเพื่อให้เหมาะสมกับทางเลือกของแต่ละธนาคาร และจากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้ธนาคารส่วนใหญ่มีเงินทุนมากพอที่จะรับมือกับภาวะขาดทุน แต่ธนาคารจะต้องดำเนินกิจการด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง"
"ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ภาคการธนาคารของสหรัฐจะมีเสถียรภาพมากขึ้นและธนาคารอาจสามารถกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งแม้ธนาคารบางแห่งยังคงอยู่ในระยะของการปรับโครงสร้างองค์กร เราเชื่อว่าธนาคารของสหรัฐจะมีงบดุลที่แข็งแกร่งขึ้นและมีเงินทุนมากพอที่จะปกป้องภาวะขาดทุนด้วย" ไกธ์เนอร์กล่าวต่อจอห์น นิโคล นักวิเคราะห์จาก Federated Investors กล่าวว่า "การแสดงความคิดเห็นของไกธ์เนอร์ช่วยผ่อนคลายกระแสความวิตกกังวลในตลาด หลังจากดาวโจนส์ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเมื่อแบงค์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยว่า จำนวนลูกค้าที่ผิดนัดชำระหนี้พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ธนาคารต้องตั้งบัญชีสำรองหนี้สูญมูลค่า 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังช่วยให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้นไม่ว่าผลการตรวจสอบ stress testของ 19 ธนาคารพาณิชย์ในเดือนหน้าจะออกมาเป็นเช่นไรก็ตาม"
ขณะที่เอดิสัน อาร์มสตรอง นักวิเคราะห์จาก Tradition Energy ในกรุงนิวยอร์ก กล่าวว่า "แม้การประเมินสถานการณ์ในภาคการเงินของไกธ์เนอร์ทำให้เกิดภาวะ 'คาบเกี่ยว' ทางความรู้สึกว่าภาคการเงินจะฟื้นตัวขึ้นจริงหรือไม่ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ที่จะบอกว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้นเพราะปรากฏการณ์ Tim Geithner rally"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การแสดงความเห็นของไกธ์เนอร์ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 127.83 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 7,969.56 จุดเมื่อคืนนี้ และพยุงสัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ดีดตัวขึ้นด้วย