IMF คาดเศรษฐกิจโลกหดตัว 1.3%ปีนี้ หวั่นคนตกงานทั่วโลกอย่างน้อย 10 ล้านคน

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 23, 2009 09:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะหดตัวลง 1.3% ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และอาจทำให้ประชาชนทั่วโลกตกงานอีกอย่างน้อย 10 ล้านคน

"เศรษฐกิจโลกปีนี้มีแนวโน้มหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกชะลอตัวในระดับที่ลึกที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ Great Depression และอาจส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจ IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัว 1.3% ซึ่งหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวลงเพียง 0.5%" IMF กล่าวในรายงาน World Economic Outlook

รายงานของ IMF ระบุว่า เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มหดตัวลงครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและความเชื่อมั่นทั้งในภาคเอกชนและผู้บริโภค ดังนั้น รัฐบาลทั่วโลกจึงควรเร่งสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงินและกระตุ้นการหมุนเวียนในตลาดสินเชื่อให้คล่องตัวมากขึ้น จึงจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกหลุดพ้นจากภาวะถดถอย

IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัว 2.8% ในปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 63 ปี ขณะเดียวกันคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัว 6.2% เศรษฐกิจรัสเซียหดตัว 6% เศรษฐกิจเม็กซิโกหดตัว 3.7% และเศรษฐกิจแคนาดาหดตัว 2.5%

ขณะเดียวกันคาดว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเพียง 6.5% ในปีนี้ ส่วนเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวเพียง 4.5%

IMF ระบุว่า เศรษฐกิจโลกที่หดตัวลงในปีนี้อาจทำให้ประชาชนทั่วโลกตกงานอีกอย่างน้อย 10 ล้านคน โดยคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.9% ในปีนี้ และ 10.1% ในปีหน้า ขณะเดียวกันคาดว่าอัตราว่างงานในเยอรมนีจะพุ่งขึ้นแตะ 7.4%ในปีนี้ และ 9.2% ในปีหน้า และอัตราว่างงานในอังกฤษจะพุ่งแตะ 7.4% ในปีนี้ และ 9.2% ในปีหน้า

ส่วนในปีหน้านั้น IMF คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง โดยเชื่อว่าจะขยายตัวราว 1.9% หลังจากวิกฤตการณ์ในตลาดการเงินทั่วโลกเริ่มคลี่คลายลง ซึ่งจะช่วยให้ทุกภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้นด้วย

IMF คาดว่า ในปีหน้าเศรษฐกิจสหรัฐจะทรงตัว ขณะเดียวกันคาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะหดตัวลง 1% และเศรษฐกิจอังกฤษจะหดตัวลง 0.4% ส่วนประเทศอื่นๆ รวมถึงญี่ปุ่น รัสเซีย แคนาดา และเม็กซิโกจะขยายตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เศรษฐกิจจีนและอินเดียจะขยายตัวรวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆ

ทั้งนี้ IMF เรียกร้องให้ประเทศทั่วโลกร่วมมือกันมากขึ้น ทั้งในด้านการใช้มาตรการการคลัง ผ่านการลดหย่อนภาษีหรือกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคธุรกิจ และเตือนว่าไม่ควรที่จะใช้นโยบายกีดกันการค้า เพราะจะสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโลก

การคาดการณ์เศรษฐกิจโลกของ IMF ครั้งนี้ มีขึ้นหลังจาก IMF ออกรายงาน Global Financial Stability Report (GFFSR) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่าสถาบันการเงินทั่วโลกอาจขาดทุนรวมกันราว 2.7 ล้านล้านดอลลาร์เนื่องจากวิกฤตการณ์ในตลาดการเงินซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาในตลาดซับไพรม์ของสหรัฐ และระบุว่าวิกฤตการณ์การเงินโลกซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากสหรัฐในช่วงเดือนส.ค.ปี 2550 จะส่งผลให้ตัวเลขขาดทุนในภาคเอกชนทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะ 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ สำนักข่าวเอพีรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ