นายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส ผอ.สภาเศรษฐกิจแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ Fox News Sunday ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงหดตัวลงต่อไปอีกระยะหนึ่ง และปีนี้อัตราจ้างงานจะหดตัวลงมากอีกช่วงหนึ่งเช่นกัน
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งได้จัดการประชุมขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในกรุงวอชิงตันก็ได้ปรับลดการคาดการณ์ประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 ลงเช่นกันทั้งในปีนี้และปีหน้า IMF ระบุด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐคาดว่า จะหดตัวลง 2.8% ปีนี้ และจะไม่ขยายตัวเลยในปี 2553 ขณะที่อัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะ 10.1%
ซัมเมอร์ส กล่าวว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตได้เพิ่มสำรองที่หดหายไปขึ้นมาใหม่ ส่วนผู้บริโภคก็เปลี่ยนรถยนต์เก่าๆของตนเอง ซึ่งภาวะที่ไม่สมดุลเช่นนี้คงจะไม่เกิดขึ้นไปตลาด เมื่อใดที่สถานการณ์ดังกล่าวได้รับการแก้ไข ปัจจัยดังกล่าวก็จะกลายเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจ
บลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัท เท็กซัส อินสตรูเมนท์ส อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชืปรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ลูกค้าเริ่มที่จะเพิ่มคำสั่งซื้อหลังจากที่สำรองสินค้าลดลง
ซัมเมอร์สกล่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังคงเดินหน้าเพื่อควบคุมและส่งเสริมให้เศรษฐกิจขยายตัว แม้ว่าจะต้องใช้เวลามากก็ตามบางทีอาจจะใช้เวลาถึง 6 เดือนหรือมากกว่านั้น และย้ำถึงเรื่องการประเมินแบงค์ส่วนใหญ่ในสหรัฐที่ระบุว่ามีเงินทุนเพียงพอ หน่วยงานด้านการกำกับดูแลได้ตรวจสอบสถานภาพทางการเงินของแบงค์ใหญ่ 19 แห่งในสหรัฐ เพื่อตรวจสอบดูว่าธนาคารเหล่านี้ต้องการเงินทุนเพิ่มเติมหรือไม่ และอยู่ในระหว่างการหารือเรื่องผลการตรวจสวบกับเจ้าหน้าที่แบงค์ในสัปดาห์นี้
ผอ.สภาเศรษฐกิจฯ กล่าวต่อไปว่า ยังมีงานที่ต้องทำอีกมากทั้งการแก้ปัญหาธุรกิจไฟแนนซ์ การระดมทุน และการให้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเพิ่มเติมแก่แบงค์ต่างๆ