สิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ ลิมิเต็ด (สิงเทล) บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานรายใหญ่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยกำไรรายไตรมาสร่วงหนักสุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและเงินรูเปียห์อินโดนีเซียที่อ่อนค่าลง
โดยรายได้สุทธิของสิงเทลร่วงลงกว่า 17% เหลือ 903 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (616 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสแรกซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา เทียบกับ 1.09 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ก็ยังมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 835 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ฉัว ซ็อค คุง ซีอีโอของบริษัท กล่าวว่า สิงเทลจะขยายการลงทุนในต่างประเทศต่อไป หลังรายได้รายปีก่อนหักภาษีจากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศจะลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี
"สิงเทลจำเป็นต้องขยายการลงทุนอย่างไม่มีข้อสงสัย" สตีเวน ลิม ผู้จัดการกองทุนจากบริษัท ไดวา เอสบี อินเวสเมนท์ ในสิงคโปร์ กล่าว "ผมเชื่อว่าพวกเขายังพอมีช่องทางขยายธุรกิจในต่างประเทศได้ในระยะยาว แม้ว่าโดยมากจะต้องพึ่งพาการลงทุนในอินเดียและอินโดนีเซียก็ตาม"ทั้งนี้ นายลิมมีถ้อยแถลงดังกล่าวก่อนที่สิงเทลจะเปิดเผยตัวเลขรายได้อย่างเป็นทางการ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หุ้นสิงเทลลบ 0.4% แตะ 2.72 ดอลลาร์สิงคโปร์ในการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์เมื่อวานนี้ หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 6.7% ในปีนี้