เงินเยนมีแนวโน้มพุ่งขึ้นสวนทางกับที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินปอนด์ของอังกฤษในปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนเบนเข็มจากการถือครองสกุลเงินดอลลาร์มาซื้อเงินเยนของญี่ปุ่นมากขึ้น เพราะเห็นว่าเงินเยนเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกมากที่สุด
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ทีดี ซิเคียวริตี้กล่าวว่า นักลงทุนอาจได้ประโยชน์จากเงินเยนที่คาดกันว่าจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าเงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวแตะที่ระดับ 92 เยน/ดอลลาร์ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทด้นแนะให้นักลงทุนเทขายเงินปอนด์ ที่คาดว่าจะอ่อนค่ามาอยู่ระดับ 139 เยน/ปอนด์
"แม้เงินดอลลาร์ยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุนที่ต้องการซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง แต่เงินเยนเป็นแหล่งอีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนที่ปลอดภัยในยามที่ตลาดยังขาดเสถียรภาพ"
อย่างไรก็ตาม เงินเยนเป็นสกุลเงินที่เคลื่อนไหวซบเซามากที่สุดในปีนี้เมื่อเทียบกับบรรดา 16 สกุลเงินที่ซื้อขายกันในตลาดปริวรรตเงินตรา เนื่องจากมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกได้ทำให้นักลงทุนเบนเข็มไปเทรดสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.1% เมื่อเดือนธ.ค.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10:17 น.ตามเวลาโตเกียว เงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.3% แตะที่ 95.55 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์เคลื่อนไหวที่ระดับ 144.69 เยน/ปอนด์ และในปีนี้เงินเยนอ่อนค่าลง 5.1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และดิ่งลง 8.5% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์
ทั้งนี้ ทีดี ซิเคียวริตี้ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเยน โดยอ้างถึงความมีเสถียรภาพในดุลบัญชีต่างประเทศของญี่ปุ่น รวมถึงอัตราการออมในประเทศที่มีอยู่ในระดับสูง และการที่นักลงทุนรักษาฐานการลงทุนในประเทศมากขึ้น ซึ่งทำให้มีการคาดหมายว่า เงินเยนอาจเทรดที่ระดับ 90 เยน/ดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนมี.ค.ปีหน้า