(เพิ่มเติม) ปตท.-บางจากฯ ปรับขึ้นราคาเบนซิน 80 สต.ดีเซล 60 สต.มีผลพรุ่งนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 20, 2009 18:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท(PTT) และ บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ โดยขึ้นราคาเบนซินอีกลิตรละ 80 สตางค์ และดีเซลลิตรละ 60 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป(21 พ.ค.52)

ทั้งนี้ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกของ ปตท.และบางจากฯ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลวันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 31.54 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 27.74 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 26.94 บาท และดีเซลลิตรละ 24.59 บาท

"ปตท.จำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินขึ้น 80 สตางค์/ลิตร และกลุ่มดีเซลขึ้น 60 สตางค์/ลิตร ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (21 พ.ค.52) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป" นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน PTT กล่าว

เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากข่าวโรงกลั่นบริษัท Flint Hills Resources ที่เมือง Corpus Christi มลรัฐเท็กซัส ของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำลังการผลิต 288,000 บาร์เรล/วัน เกิดเหตุเพลิงไหม้และต้องปิดฉุกเฉินวานนี้ ประกอบกับหน่วยผลิตน้ำมันและโรงกลั่นของบริษัท Sunoco ที่เมือง Marcus Hook มลรัฐเพนซิลวาเนีย กำลังผลิต 178,000 บาร์เรล/วัน ยังไม่สามารถกลับมาเดินเครื่องได้จากเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สร้างความกังวลว่าปริมาณน้ำมันอาจตึงตัวเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูท่องเที่ยว

นอกจากนี้การปิดซ่อมบำรุงแหล่งผลิตน้ำมันดิบทะเลเหนือในเดือน มิ.ย. 52 จะทำให้ปริมาณการผลิตลดลงประมาณ 300,000 บาร์เรล/วัน และมีข่าวกองกำลังรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลไนจีเรียปะทะกับกลุ่มก่อการร้ายที่บริเวณ Niger Delta และอาจจำเป็นต้องอพยพพนักงานบริษัทน้ำมันและประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยอีกด้วย

นายวิทยา กล่าวว่า จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น โดยล่าสุด(19 พ.ค.52) ราคาน้ำมันดิบดูไบขึ้นมาอยู่ที่ 58.68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์เบนซิน 95 อยู่ที่ 70.98 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (เพิ่มขึ้นถึง 4.47 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 63.89 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ทั้งนี้ราคาน้ำมันยังคงเคลื่อนไหวตามกระแสข่าวรายวัน ซึ่งในช่วงครึ่งหลังของปี 52 โรงกลั่นหลายแห่งจะกลับมาเดินเครื่องผลิตหลังปิดซ่อมบำรุง รวมถึงมีโรงกลั่นแห่งใหม่ในเอเชียแปซิฟิกที่จะเริ่มผลิต อาจทำให้ความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้น และในวันที่ 28 พ.ค. 52 ให้จับตามองผลการประชุมโอเปคที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ว่าจะดำเนินนโยบายการผลิตอย่างไร ทั้งนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่ากลุ่มโอเปคอาจไม่ลดปริมาณการผลิตเพราะจะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่จะเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกเคร่งครัดต่อโควตาการผลิตมากยิ่งขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ