ผู้ประกอบการเรือโดยสารทำหนังสือแจ้งกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี(ขน.)เพื่อขอปรับขึ้นค่าบริการ เนื่องจากได้รับผลกระทบต้นทุนสูงขึ้นจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับรายได้ที่ลดลงจากเดิม
"สมาคมฯ ได้ส่งหนังสือขอปรับขึ้นค่าเรือโดยสารไปยังกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) หลังราคาน้ำมันดีเซลปรับราคาขึ้นมาอยู่ที่ลิตรละ 25.39 บาท ส่งผลให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการพิจารณาค่าเรือโดยสารได้มีข้อตกลงกับผู้ประกอบการเรือโดยสารว่าจะมีการพิจารณาค่าเรือโดยสารอีกครั้งเมื่อราคาน้ำมันดีเซลสูงกว่าลิตรละ 25 บาท" น.ท.ปริญญา รักวาทิน อุปนายกสมาคมเรือไทย กล่าว
สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาค่าโดยสารนั้น คาดว่าจะมีการปรับขึ้นค่าเรือโดยสารทั้งเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือคลองแสนแสบ อีกระยะละ 2 บาท ส่วนเรือข้ามฟากนั้นจะยังไม่ปรับขึ้นค่าโดยสาร แต่จะพิจารณาอีกครั้งเมื่อราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 36 บาท โดยปัจจุบันเรือด่วนพิเศษธงเหลืองจัดเก็บค่าโดยสารที่ 18,27 บาท เรือด่วนพิเศษธงส้มอยู่ที่ 13 บาทตลอดเส้นทาง เรือธรรมดาอยู่ที่ 9,11,13 บาท และเรือคลองแสนแสบอยู่ที่ 8-18 บาท
"ในอดีตเมื่อราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงตามที่กำหนด ผู้ประกอบการเรือโดยสารก็แสดงความจริงใจในการปรับลดค่าโดยสารทันที โดยเจ้าของเรือคลองแสนแสบปรับลดค่าโดยสารหลังน้ำมันลดราคาเพียง 1 วัน ขณะที่เรือเจ้าพระยาปรับลดค่าโดยสารหลังราคาน้ำมันลด 2 สัปดาห์ จึงหวังว่าเมื่อราคาอยู่ในระดับที่ต้องปรับขึ้นค่าโดยสาร กรมการขนส่งทางน้ำฯ ก็น่าจะพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารโดยเร็วเช่นกัน" น.ท.ปริญญา กล่าวปัจจุบันปริมาณผู้โดยสารเรือเจ้าพระยาลดลงเหลือวันละ 3.1 หมื่นเที่ยว จากเดิม 3.5 หมื่นเที่ยว ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น การให้บริการรถโดยสารฟรีเพื่อประชาชน และการที่รถไฟฟ้าบีทีเอสขยายเส้นทางไปฝั่งธนบุรี ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับเรือข้ามฟากบริเวณสะพานสาทร ทำให้ปริมาณผู้โดยสารลดลงกว่า 60%
ด้านนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานกรรมการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) กล่าวว่า ผู้ประกอบการรถร่วมบริการ ขสมก.ได้ยื่นหนังสือขอให้พิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสาร และยกเว้นค่าตอบแทนส่วนแบ่งรายได้ โดยผู้ประกอบการขอปรับขึ้นค่าโดยสารสำหรับรถโดยสารธรรมดาเป็น 10 บาท จากเดิม 8 บาท รถโดยสารปรับอากาศปรับขึ้นอีกระยะละ 2 บาท หลังจากนี้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งกลางจะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมต่อไป
สาเหตุที่ผู้ประกอบการรถร่วมขอปรับขึ้นค่าโดยสาร เนื่องจากต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น ทั้งจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรถเครื่องยนต์เอ็นจีวีสูงกว่ารถเครื่องยนต์ดีเซลประมาณ 45% ขณะที่มีภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับเปลี่ยนรถโดยสารเอ็นจีวีซึ่งต้องผ่อนชำระหนี้สินจากการลงทุน รวมทั้งการที่ ขสมก.ให้บริการรถโดยสารฟรีเพื่อประชาชน 800 คัน ทำให้รายได้ของผู้ประกอบการลดลงประมาณวันละ 30%