ออสเตรเลียเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนมิ.ย.ดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 22 ปี หลังจากที่การรายงานว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียไตรมาส 1 หลุดพ้นจากภาวะถดถอย โดยเวสท์แพค แบงกิ้ง คอร์ป และสถาบันเมลเบิร์นได้เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภค 1,200 รายในระหว่างวันที่ 1 มิ.ย.และ 7 มิ.ย. พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีดตัวขึ้น 12.7% จากระดับเดือนพ.ค.มาอยู่ที่ 100.1 จุด ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2551 ที่ดัชนีอยู่เหนือระดับ 100 จุด ที่เป็นตัวเลขที่บ่งชี้ว่า จำนวนผู้ที่มีความเชื่อมั่นนั้นมีจำนวนมากกว่าผู้ที่ไม่มีความเชื่อมั่น
เกลน สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3% ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลออสเตรเลียก็ได้รายงานเรื่องสถิติการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาส 1 ที่ขยายตัวเช่นเดียวกันกับจีนและอินเดีย ขณะที่เศรษฐกิจประเทศอื่นๆนั้นยังคงอยู่ในภาวะถดถอย ขณะที่เมื่อวานนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของออสเตรเลียเดือนพ.ค.ก็ขยายตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปี หลังจากที่รัฐบาลออกมาประกาศว่า จะใช้งบประมาณ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐกับโครงการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ และโรงเรียน
บิล อีแวนส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเวลสต์แพค กล่าวว่า ความเชื่อมั่นที่พุ่งสูงขึ้นนี้เป็นเพราะผู้บริโภคมีปฏิกริยาต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของออสเตรเลียในไตรมาส 1 ขยายตัว 0.4% จากระดับไตรมาส 4 เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการส่งออกสินค้าการเกษตรที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจออสเตรเลียให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอย
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวได้รับการรายงานอย่างคึกคักจากสื่อ เนื่องจากเป็นตัวเลขที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียหลุดพ้นจากภาวะถดถอย แต่เราก็ไม่ควรจะประมาท เพราะจีดีพีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้นชี้ให้เห็นว่า การใช้จ่ายภายในประเทศร่วงลง 1% ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2543