บริษัท ปิโตรไชน่า ซึ่งเป็นบริษัทรายใหญ่สุดของโลกเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด อาจจะลงทุนในโรงกลั่นน้ำมันในเมืองเกรนจ์เมาท์ ประเทศสกอตแลนด์ ของบริษัท Ineos Group Holdings ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจเคมีรายใหญ่ที่สุดในอังกฤษ รวมทั้งซื้อท่อน้ำมันมูลค่า 9.7 พันล้านหยวน หรือ 1.4 พันล้านดอลลาร์จากไชน่า ปิโตรเลียม คอร์ป บริษัทแม่ของตนเอง เพื่อขยายกิจการกลั่นน้ำมันของบริษัท
การถือหุ้นในบริษัทของสกอตแลนด์จะทำให้ปิโตรไชน่ามีฐานปฏิบัติการกลั่นน้ำมันในยุโรปเป็นแห่งแรก และยังเป็นโอกาสที่บริษัทจะได้มีส่วนในเรื่องการกำหนดราคาเชื้อเพลิง โดยเมืองเกรนจ์เมาท์ตั้งอยู่ติดกับระบบท่อส่งน้ำมันของฟอร์ตีส์ ซึ่งนำส่งน้ำมันของอังกฤษเกือบถึงครึ่งหนึ่งที่ผลิตจากบ่อน้ำมันมากกว่า 70 แห่งในทะเลเหนือ
บลูมเบิร์กรายงานว่า กอร์ดอน กวาน หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านพลังงานของมิแร แอสเส็ท ซิเคียวริตตีส์ กล่าวว่า การลงทุนในโรงกลั่นของ Ineos จะทำให้บริษัทจีนรายนี้มีโอกาสในการเจาะตลาดเชื้อเพลิงอังกฤษ รวมทั้งมีโอกาสในการต่อรองเรื่องสัดส่วนโรงกลั่นน้ำมันในจีน และยังเป็นช่องทางสำหรับปิโตรไชน่าในการเข้าถึงโครงการฟื้นแหล่งน้ำมันในทะเลเหนือ
อย่างไรก็ดี โฆษกของปิโตรไชน่า ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องการลงทุนใน Ineos ส่วนการซื้อท่อน้ำมันจากบริษัทแม่นั้น ถือว่า สินทรัพย์ที่ได้มาจะช่วยให้การดำเนินงานของบริษัทเป็นปึกแผ่นมากขึ้น
สินทรัพย์ที่ปิโตรไชน่าจะซื้อมานั้น ได้แก่ ท่อน้ำมันดิบและท่อน้ำมันกลั่น ซึ่งแต่ละท่อมีความยาวถึง 1,858 กิโลเมตรทอดตัวจากทางตะวันตกไปยังตะวันออกจากเมืองอูรูกี ซินเจียงไปจนถึงหลานโจว โดยมีความสามารถในการรองรับน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงได้ 20 ล้านเมตริคตัน และ 10 ล้านตันต่อไปตามลำดับ
กวานกล่าวต่อไปว่า ปิโตรไชน่าจะประหยัดเงินได้จากการซื้อท่อน้ำมันดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้ท่อน้ำมันเหล่านี้ให้กับบริษัทแม่