"เบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์" ถูกศาลตัดสินจำคุก 150 ปีจากคดีฉ้อโกงบรรลือโลก

ข่าวต่างประเทศ Tuesday June 30, 2009 09:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์ อดีตประธานกรรมการตลาดหุ้นนาสแดค ถูกศาลตัดสินให้จำคุก 150 ปี จากคดีโกงแชร์ลูกโซ่ครั้งประวัติศาสตร์ของโลก ซึ่งยาวนานกว่าโทษที่ซีอีโอของเวิลด์คอม คอร์ป และ เอนรอน คอร์ป ได้รับถึง 6 เท่า

ในวันนี้มาดอฟฟ์ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าผู้พิพากษาเดนนี่ ชิน ในนิวยอร์ก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยอมรับผิดเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยความเสียหายที่มาดอฟก่อขึ้นอาจสูงถึง 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งในรูปแบบของการลงทุนจริงและการลงทุนในนาม

"ผมไม่ขอให้ใครอภัยให้ผม ผมทำผิดอย่างร้ายแรงจริงๆ" มาดอฟฟ์ วัย 71 ปี กล่าวต่อหน้าศาล พร้อมยอมรับว่าเขาโกงแม้กระทั่งพี่น้อง ลูกชาย 2 คน รวมถึงภรรยาของตัวเอง ซึ่งทั้งหมดไม่มาร่วมฟังคำตัดสินในวันนี้

เมื่อผู้พิพากษาเดนนี่ ชิน ตัดสินให้มาดอฟฟ์จำคุกด้วยโทษสูงสุด ผู้ที่อยู่ในศาลต่างปรบมือดังกึกก้องด้วยความพอใจ จากนั้นมาดอฟฟ์ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไป

อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษากล่าวว่ามาดอฟฟ์ไม่ยอมระบุตัวผู้สมรู้ร่วมคิด ทำให้เป็นการยากที่จะตั้งข้อหาบุคคลอื่นซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ มาดอฟฟ์ขอร้องให้เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์จองจำเขาที่ทัณฑสถานกลางในโอทิสวิลล์ นิวยอร์ก ซึ่งอยู่ห่างจากแมนฮัตตันไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 80 ไมล์ แต่ทางกรมราชทัณฑ์จะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะคุมขังเขาที่ไหน โดยผู้พิพากษาเดนนี่ ชิน กล่าวว่า มาดอฟฟ์ควรถูกขังที่เรือนจำทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศมากกว่า

มาดอฟฟ์ถูกเจ้าหน้าที่ FBI บุกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ปีที่แล้ว ในข้อหาจัดตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ในรูปแบบของ แชร์ลูกโซ่ (ponzi scheme) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ส่งผลให้สถาบันการเงินหลายแห่งทั่วโลก อีกทั้งกองทุน นักลงทุนผู้มั่งคั่งและผู้มีชื่อเสียง สูญเงินไปกับการหลอกลวงในครั้งนี้จำนวนมาก โดยสถาบันการเงินและบริษัทรายใหญ่ที่ได้รับความเสียหายครั้งนี้ รวมถึง ธนาคาร HSBC, ธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ และโนมูระ โฮลดิ้งส์

มาดอฟฟ์ฉวยประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่ตนเองมีฐานะเป็นผู้บริหารตลาดหุ้นนาสแดคและหนึ่งในคณะที่ปรึกษาของตลาดหุ้นแห่งนี้ มาเป็นเครื่องมือหลอกลวงให้สถาบันการเงินทุ่มเงินเข้ามาลงทุนในแชร์ลูกโซ่ จนทำให้เขากลายเป็นอาชญากรเศรษฐกิจที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากที่สุด

นอกจากนี้ การกระทำของมาดอฟฟ์ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความน่าเชื่อถือของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ที่ถูกวิพากษ์วิจารย์อย่างหนักว่าบกพร่องในเรื่องการตรวจสอบกองทุนของนายมาดอฟฟ์ จนในที่สุดนายคริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ ประธาน SEC ตัดสินใจกู้วิกฤตศรัทธาของ SEC ด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องดังกล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ