ลี ดอง ฮี ซีเอฟโอพอสโค บริษัทเหล็กรายใหญ่อันดับ 3 ของเอเชีย กล่าวว่า รายได้ของบริษัทคาดว่าจะดีดตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ขณะที่บริษัทได้รับอานิสงส์จากการลดราคาวัตถุดิบและยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับกลุ่มลูกค้าก็เริ่มปรับสต็อคของตนเอง หลังจากที่คลังสินค้าปรับตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงขาลง โดยบริษัท โพฮัง จะเริ่มการผลิตในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้
พอสโคจะได้รับประโยชน์จากราคาสินแร่เหล็กที่ร่วงลงไป 33% รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายด้านถ่านหินที่ใช้ในการผลิตลงเกือบ 60% ตั้งแต่ปีงบประมาณที่แล้วจนกระทั่งถึงครึ่งปีหลังนี้ และเมื่อไตรมาสแรก บริษัทก็มีกำไรร่วงลงหนักสุดในรอบ 8 ปี เนื่องจากวิกฤตการเงินครั้งรุนแรงทำให้ดีมานด์หดตัวลง ขณะที่ราคาสัญญาประจำปีของวัตถุดิบต่างๆอยู่ในระดับที่คงที่
บลูมเบิร์กรายงานว่า ซีเอฟโอของพอสโค กล่าวต่อไปว่า รายได้ของบริษัทที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นนี้มาจากต้นทุนด้านผลผลิตที่ต่ำลง หลังจากที่เศรษฐกิจร่วงหนักสุดในไตรมาส 2 และรายได้ที่จะดีดตัวขึ้นนั้น คาดว่า จะเริ่มต้นขึ้นในไตรมาส 3
หุ้นพอสโค บวก 1.3% ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เมื่อเวลา 10.41 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยหุ้นพอสโคปรับตัวขึ้นมาแล้ว 13% ในปีนี้
ผลประโยชน์จากราคาสินแร่เหล็กที่ต่ำลงตามที่ได้มีการตกลงกับริโอ ทินโต กรุ๊ป บริษัทผู้ส่งออกสินแร่เหล็กรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เมื่อเดือนพ.ค.นั้น คงจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 - 3 เดือนกว่าที่จะเห็นผล เนื่องจากสำรองวัตถุดิบที่มีอยู่ของพอสโคมีราคาสูงกว่านั้น ทางด้านบีเอชพี บิลลิตัน บริษัทเหมืองรายใหญ่สุดของโลก เปิดเผยว่า ราคาสัญญาถ่านหินโค้กประจำปีของบริษัทร่วงลงไปแล้ว 58%
ในปีนี้ พอสโคได้เพิ่มปริมาณการส่งออกไปยังตลาดต่างๆ เช่น ตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อชดเชยกับดีมานด์ในภูมิภาคที่ลดลง และเมื่อเร็วๆนี้ ยอดส่งออกของบริษัทก็อยู่ในสัดส่วน 40% ของยอดขายทั้งหมดของบริษัท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นจากระดับปีที่แล้วที่ 30%