นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP) ของไทยในไตรมาส 2/52 จะยังคงติดลบ 5-6% ซึ่งดีขึ้นจากไตรมาส 1/52 ที่ติดลบมากถึง 7.1% และน่าจะเป็นจุดต่ำสุดในรอบนี้แล้ว โดยเชื่อว่าการที่ GDP ขยับดีขึ้น เป็นผลของการใช้จ่ายวงเงินกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 1 ของรัฐบาล และจากการที่ผู้ส่งออกเริ่มส่งสินค้าไปยังต่างประเทศได้มากขึ้นหลังสต็อกสินค้าของประเทศผู้นำเข้าเริ่มหมดลง
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศชั้นนำหลายประเทศมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น ส่งผลต่อการส่งออกไทยตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้จะเริ่มดีขึ้น รวมทั้งความกังวลต่อสถานะการคลังของรัฐบาลลดน้อยลง หลังจากรัฐสภาเห็นชอบกฎหมายการกู้เงินทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลมีเงินทุนเพียงพอจะนำมาใช้จ่ายในโครงการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบ 2
นายพงษ์ศักดิ์ ยังมองว่า เศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังจะยังเผชิญกับความไม่แน่นอนในอีกหลายด้าน โดยเฉพาะความต่อเนื่องของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก, ความรุนแรงของการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อันอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 ที่เป็นช่วง High Season, สถานการณ์การเมืองและเสถียรภาพของรัฐบาล, ปัญหาราคาน้ำมันที่ยังคงผันผวนและมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงปลายปี ตลอดจนการส่งออกที่อาจได้รับแรงกดดันจากเงินบาทที่แข็งค่า
ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ภาคเอกชนต้องการเห็นจากรัฐบาลมากที่สุด คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีการเรียงลำดับความสำคัญที่ถูกต้อง ตรงจุด รวดเร็ว โปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้ต้องการให้รัฐบาลเร่งปรับปรุงนโยบายต่างๆ เพื่อให้ประเทศมีความสามารถในการแข่งขันทางการค้ามากขึ้น และเพื่อรองรับหากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากที่สุด