เหล่าผู้ขายบ้านในสหรัฐต่างพร้อมใจลดราคาบ้านรวมกันเป็นมูลค่าถึง 2.71 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังเศรษฐกิจซบเซาและจำนวนบ้านถูกยึดเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้อุปสงค์บ้านลดลง
โดย ทรูเลีย อิงค์ (Trulia Inc.) ผู้ให้ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของสหรัฐ เปิดเผยว่า ณ วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา 1 ใน 4 ของผู้ขายบ้านตัดสินใจลดราคาบ้านลงเฉลี่ย 10% โดยบ้านราคาเกิน 1 ล้านดอลลาร์มีการลดราคามากที่สุดถึง 13% ส่วนบ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์ลดราคาลงราว 9%
ข้อมูลล่าสุดของสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐระบุว่า ราคาบ้านมือสองในสหรัฐลดลง 17% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่งผลให้ยอดขายบ้านเพิ่มขึ้น 2.4% แตะ 4.77 ล้านหลัง
"ผู้ขายบ้านจำเป็นต้องลดราคาบ้านเพื่อสนองต่ออุปสงค์ที่ลดลง" พีท ฟลินท์ ซีอีโอของ ทรูเลีย กล่าว "การลดราคาบ้านจะทำให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่คงอีกนานกว่าตลาดจะฟื้นตัว"
ทั้งนี้ ในกลุ่ม 50 เมืองใหญ่ของสหรัฐ เมืองแจ๊คสันวิลล์ ฟลอริด้า มีการลดราคาบ้านมากที่สุดถึง 39% ตามมาด้วยบอสตัน ที่ 35% และมินนีอาโพลิส ที่ 33% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน