สถาบัน Royal Institution of Chartered Surveyors (RICS) เปิดเผยว่า สถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนมีมากขึ้น และยอดบ้านราคาแพงมีจำนวนสูงกว่าบ้านที่ลดราคาเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือน
โดยผลสำรวจดังกล่าวบ่งชี้ว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษที่ลดลงต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สิ้นสุดลงหลังอังกฤษเริ่มก้าวพ้นจากจุดต่ำสุดของวิกฤติเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคารกลางอังกฤษได้ปฏิเสธที่จะขยายโครงการซื้อคืนธนบัตรกรณีฉุกเฉินและติดตามสถานการณ์ไปจนถึงปีหน้าเพื่อดูว่าจะต้องปรับทบทวนคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อหรือไม่
นักวิเคราะห์จาก RICS กล่าวว่า "ขณะนี้ตลาดเริ่มมีมุมมองในแง่บวกเพิ่มขึ้นมากทีเดียว"
โดยผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เชื่อว่า ราคาที่อยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2550 ขณะที่ดัชนียอดขายบ้านใหม่และความสนใจของผู้ซื้อเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2542
บลูมเบิร์กรายงานว่า ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศของอังกฤษตกลง 2.4% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นระดับที่ร่วงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2501 ขณะที่สภาพอากาศที่เริ่มอบอุ่นได้ช่วยให้ยอดขายในร้านค้าปลีกช่วงเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.4% จากปีก่อน
ด้านฮาลิแฟกซ์ ธุรกิจในเครือบริษัทลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ราคาบ้านของอังกฤษลดลง 0.5% ในเดือนมิ.ย. และตกลง 12.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังไม่ฟื้นตัวจนกว่าธนาคารพาณิชย์พอใจที่ออกเงินกู้ให้ผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส แอลแอลพี คาดการณ์ว่า ราคาบ้านมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงไปจนถึงปีหน้าก่อนที่อังกฤษจะประสบภาวะถดถอยแต่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในปี 2554