ดัชนีภาคอุตสาหกรรมการผลิตของจีนเดือนก.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายที่ช่วยหนุนอุปสงค์ภายในประเทศ และช่วยบรรเทาผลกระทบจากการทรุดตัวของธุรกิจส่งออก
CLSA Asia-Pacific Markets เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีนในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.8 จุดจากระดับเดือนมิ.ย.ที่ 51.8 จุด ซึ่งทำสถิติขยายตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4
นักวิเคราะห์จาก IHS Global Insight กล่าวว่า ตัวเลขการขยายตัวภาคการผลิตในเดือนมิ.ย.สะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์จากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านหยวน (5.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของรัฐบาลรวมถึงการปล่อยเงินกู้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของธนาคารพาณิชย์ถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งทำสถิติเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปีก่อนหน้านี้อาจทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ของโลกแทนที่สหรัฐได้ในปี 2558 ในยามที่สหรัฐกำลังเผชิญภาวะถดถอยจนทำให้อัตราการผลิตสินค้าลดลง
อีริค ฟิชวิค หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจของ CLSA ในฮ่องกงกล่าวว่า "กิจกรรมภาคการผลิตยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดสั่งซื้อก็ปรับตัวขึ้นจากแรงหนุนของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่อุปสงค์ต่างประเทศยังคงซบเซา"
ทั้งนี้ การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและการให้เงินช่วยเหลือแก่ผู้บริโภคได้ช่วยบรรเทาผลกระทบด้านการทรุดตัวของภาคการส่งออกและยังช่วยหนุนให้บริษัทหลายแห่งฟื้นตัวขึ้นได้ โดยเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 2 ดีดตัว 7.9% จากปีก่อนหน้านี้ และการใช้นโยบายเชิงรุกจะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนให้เติบโตได้จนถึงสิ้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม การรายงานยอดปล่อยเงินกู้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของธนาคารพาณิชย์อาจทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลถึงปัญหาหนี้เสียที่อาจเกิดขึ้นตามมา รวมถึงภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น และตลาดอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังจุดชนวนการเกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งในปีนี้ ตลาดหุ้นจีนทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงเกือบ 90%