ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มที่จะคาดการณ์ตัวเลขราคาผู้บริโภคที่อ่อนตัวลงต่อไปอีกจนถึงปี 2554 แม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้วก็ตาม ซึ่งการประเมินตัวเลขดังกล่าวจะมีข้อมูลการคาดการณ์เศรษฐกิจปีงบประมาณ 2553 เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน โดยบีโอเจมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในเดือนต.ค.
แหล่งข่าวกล่าวว่า สมาชิกธนาคารกลางญี่ปุ่นได้คาดการณ์ราคาผู้บริโภคว่าจะร่วงลง 1.3% ในปีงบประมาณปัจจุบัน และ 1% ในปีงบประมาณ 2553 และภาวะเงินฝืดที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 อาจจะทำให้นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นและคณะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเฉียดศูนย์ไปจนถึงปีหน้า
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การคงอัตราอัตราดอกเบี้ยไว้อาจจะทำให้กำไรของบริษัทเอกชน เช่น อิออน ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศที่ถูกบีบให้ส่วนลดเพื่อดึงดูดผู้บริโภคที่ค่าแรงร่วงลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า จุน อิชิ หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ของยูเอฟเจ ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมที่ 0.1% อย่างน้อยจนถึงปี 2554 เพื่อหยุดยั้งภาวะเงินฝืดที่มีทีท่าว่าจะฝืดมากขึ้น และธนาคารก็อาจจะพิจารณาเรื่องการผ่อนปรนด้านนโยบายมากกว่านี้ หากปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเงินฝืดเพิ่มขึ้นมากกว่านี้
ทั้งนี้ เศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรง หลังจากที่การส่งออกปรับตัวขึ้นและกลุ่มผู้ผลิตได้เพิ่มการผลิตเพื่อเสริมคลังสินค้า แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจนี้ก็ยังไม่ได้กระจายไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องเผชิญกับรายได้ที่ลดลง ขณะที่อัตราว่างงานก็สูงขึ้นจนนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า จะสูงถึง 5.8% ในช่วงต้นปีหน้า
อากิโอะ มากาเบะ ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐกิจของมหาวิทยาลัยชินชู กล่าวว่า โอกาสที่บีโอเจจะลดดอกเบี้ยก็มีน้อยอยู่แล้ว ดังนั้น ธนาคารจึงไม่มีทางเลือกที่จะคงมาตรการนโยบายพิเศษไว้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการผ่อนปรนด้านสินเชื่อ หรืออื่นๆ ต่อไปอีกนาน