"ครุกแมน"เชื่อเศรษฐกิจโลกสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตรุนแรง หลังรบ.ทั่วโลกร่วมใช้แผนฟื้นฟู

ข่าวต่างประเทศ Monday August 10, 2009 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2551 เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจโลกจะสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ถดถอยรุนแรง หรือ Great Depression รอบที่ 2 ได้ เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างเต็มรูปแบบได้คงต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีหรือมากกว่า

"วิกฤตเศรษฐกิจโลกรุนแรงสิ้นสุดลงแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวและยอดการส่งออกทั่วโลกเริ่มมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวอย่างเต็มรูปแบบอาจต้องใช้เวลาประมาณ 2 ปีหรือมากกว่า เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกไม่ได้ใช้มาตรการระยะยาวในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ขัดขวางการเติบโต" ครุกแมนกล่าวในที่ประชุมตลาดทุนโลกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

ครุกแมนกล่าวว่า "แม้เศรษฐกิจโลกจะไม่ฟื้นตัวมากเหมือนกับในช่วงหลังเกิดวิกฤตการณ์การเงินเอเชียในปีพ.ศ.2540-41 ที่ในยุคนั้นได้รับแรงหนุนจากยอดส่งออกที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง แต่เศรษฐกิจโลกก็มีโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์รุนแรงในระดับ Great Depression ได้ ส่วนเศรษฐกิจเอเชียนั้น คาดว่าจะดีดตัวรวดเร็วกว่าสหรัฐและยุโรป เนื่องจากยอดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่สดใสขึ้น"

ทั้งนี้ ครุกแมนกล่าวว่าหนึ่งในสัญญาณบ่งชี้ที่ดีที่สุดว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจสิ้นสุดลง มาจากโดยอัตราการว่างงานประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐที่ร่วงลงแตะระดับ 9.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 1 ปี 3 เดือน สวนทางกับการคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 9.6% และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) ลดลง 247,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 325,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ ครุกแมนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวและผลพวงของมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่รัฐบาลสหรัฐนำมาใช้นั้นจะเห็นผลมากขึ้นในไตรมาสนี้ พร้อมกล่าวว่าภาวะถดถอยรุนแรงทางเศรษฐกิจได้สิ้นสุดลงแล้วในเดือนก.ค. หรืออาจจะสิ้นสุดลงในเดือนส.ค. ขณะเดียวกันครุกแมนเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบที่สอง บลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ