กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลผลิตของสหรัฐในไตรมาส 2 ปีนี้ พุ่งขึ้น 6.4% ซึ่งถือเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี โดยต้นทุนด้านแรงงาน ค่าจ้าง ของแต่ละหน่วยผลผลิต ร่วงลง 5.8% นับเป็นตัวเลขที่อ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 9 ปี
โดยค่าใช้จ่ายที่ลดลงหมายความว่า บริษัทต่างๆอาจจะปลดพนักงานน้อยลง หลังจากที่ยอดขายเริ่มมีเสถียรภาพ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการยุติช่วงขาลงของการจ้างงาน นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของผลผลิตยังช่วยควบคุมเงินเฟ้อซึ่งช่วยหนุนให้ที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐมีเวลาเหลือพอที่จะคงนโยบายกระตุ้นตลาดต่อไป
ก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าผลิตผลในสหรัฐอาจปรับตัวสูงขึ้นเร็วสุดในรอบเกือบ 2 ปีในไตรมาส 2 หลังนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานมากขึ้นเพื่อเพิ่มผลกำไร
โดยผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ 62 รายซึ่งจัดทำโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ผลิตผล ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าลูกจ้างทำงานได้มากน้อยแค่ไหนในเวลา 1 ชั่วโมง อาจปรับตัวสูงขึ้น 5.5% ในไตรมาส 2 หลังจากที่ขยับขึ้น 1.6% ในไตรมาสแรก ด้านต้นทุนแรงงานมีแนวโน้มว่าจะลดลงเป็นครั้งแรกในรอบปี
คริส รัพคีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การเงินของแบงค์ออฟ โตเกียว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ กล่าวว่า ตัวเลขค่าใช้จ่ายที่ลดลงนี้นับเป็นเรื่องที่ดีสำหรับโครงสร้างต้นทุนของบริษัทต่างๆ