สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยทำให้นักลงทุนกระหน่ำขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วทั้งกระดาน รวมถึงสัญญาน้ำมันดิบ ทองคำ และสัญญาโลหะประเภทอื่นๆ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลดังกล่าวยังกระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์และพันธบัตร ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 935.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 12.90 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 950.40-931.30 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 13.97 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 74.70 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 6.55 เซนต์ ปิดที่ 2.7855 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,222.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 39.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 267.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 9.85 ดอลลาร์
อดัม คล็อปเฟนสเต็น นักวิเคราะห์ด้านโลหะมีค่าจากบริษัท Lind-Waldock ในนิวยอร์กกล่าวกับเอพีว่า ความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยทำให้นักลงทุนแห่เทขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงทองคำและน้ำมันดิบ และเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์และพันธบัตรเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดแรงเทขายอย่างหนักติดต่อกันหลายวันมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ทั้งในสหรัฐและญี่ปุ่น
ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ของสหรัฐลดลง 0.1% ส่วนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอัตราว่างงานที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายสินค้าที่ไม่จำเป็น และข้อมูลดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในช่วงต้นเดือนส.ค.ลดลงสู่ 63.2 จาก 66.0 ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 68.5 โดยดัชนีร่วงลงเป็นเดือนที่ 2 และดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีนี้