เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและดอลลาร์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว ก่อนหน้าที่เยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในเดือนนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกเริ่มคลี่คลายลง
สกุลเงินทั้ง 16 สกุลที่ซื้อขายในตลาดพุ่งแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยน หลังผลสำรวจจาก บลูมเบิร์กระบุถึงการคาดการณ์ว่า ZEW ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรปจะเปิดเผยดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ที่จะไต่ระดับขึ้นแตะ 45 จุดในเดือนนี้ จากระดับ 39.5 จุดในเดือนก.ค.
เงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรับก่อนที่รัฐบาลจะเปิดเผยยอดการสร้างบ้านใหม่ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะที่ 598,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. จากระดับที่เพิ่มขึ้น 582,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. ซึ่งกระแสคาดการณ์ดังกล่าวได้กระตุ้นให้นักลงทุนต้องการถือครองสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09:23 น.ตามเวลาโตเกียว เงินยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.4113 ดอลลาร์/ยูโรจากระดับ 1.4082 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ 133.57 เยน/ยูโร จากระดับ 133.08 เยน/ยูโร ส่วนเงินเยนอ่อนค่าลงสู่ระดับ 94.65 ต่อดอลลาร์ จากระดับ 94.50 ต่อดอลลาร์
โจนาธาน คาเวนเนจ นักวิเคราะห์จากเวสแพค แบงกิ้ง คอร์ป ในซิดนีย์กล่าวว่า "เนื่องจากเยอรมนีเป็นศูนย์กลางด้านการผลิต ผลสำรวจการคาดการณ์เศรษฐกิจในประเทศดังกล่าวจึงเปรียบเสมือนตัวสะท้อนความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจโลก และเงินยูโรจะได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้"