รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์วางแผนที่จะขายหุ้นที่ถืออยู่ในแบงค์ยูบีเอส ซึ่งเป็นแบงค์รายใหญ่สุดของประเทศมูลค่า 6 พันล้านฟรังค์สวิส หรือ 5.6 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่ได้ตกลงกับสหรัฐเมื่อวานนี้สำเร็จเกี่ยวกับข้อมูลของลูกค้าของธนาคารที่ต้องสงสัยว่าจะหลบเลี่ยงการจ่ายภาษี
รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้ออกคำสั่งกับธนาคารต่างประเทศและธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ให้ขายหุ้นของยูบีเอส 332.2 ล้านหุ้น ในราคาขั้นจ่ำ ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะสามารถทำกำไรได้จากการขายหุ้นครั้งสำคัญ
บลูมเบิร์กรายงานว่า สมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์จะยกเว้นสิทธิในการรับคูปองสำหรับหุ้นกู้แปลงสภาพเพื่อแลกเป็นเงินสดประมาณ 1.8 พันล้านฟรังค์สวิส ซึ่งเป็นมูลค่าปัจจุบันของการชำระคูปองในอนาคต
เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ได้ลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพได้มูลค่า 6 พันล้านฟรังค์สวิส หรือ 5.6 พันล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือยูบีเอสในการกำจัดสินทรัพย์ที่มีปัญหาท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ
เมื่อวานนี้ การฟ้องร้องของสหรัฐเรื่องการขอข้อมูลลูกค้าของแบงค์ยูบีเอสถึง 52,000 บัญชีได้สิ้นสุดลง และการเพิ่มเงินทุน 3.8 พันล้านฟรังค์สวิสเมื่อเดือนมิ.ย.ก็ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นที่มีต่อธนาคารด้วยเช่นกัน
ทางการสวิสและสหรัฐเปิดเผยว่า ยูบีเอสจะเปิดเผยข้อมูลที่จัดว่าเป็นความลับของบัญชีลูกค้า 4,450 บัญชี เพื่อยุติคดีการฟ้องร้องจากทางฝั่งสหรัฐที่ต้องการรายชื่อลูกค้าชาวอเมริกันของแบงค์ที่ต้องสงสัยว่า จะมาเปิดบัญชีที่ธนาคารเพื่อหาทางเลี่ยงจ่ายภาษี โดยแบงค์จะส่งรายชื่อไปให้กับรัฐบาลสวิสที่จะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่า จะส่งข้อมูลใดบ้างให้กับทางสหรัฐต่อไป
ฮานส์-รูดอล์ฟ เมิร์ซ รัฐมนตรีคลังสวิส กล่าวว่า ขณะนี้ข้อตกลงดังกล่าวถือว่าเป็นข้อตกลงที่ไม่ได้เลวร้ายนัก รัฐบาลตั้งใจที่จะเปลี่ยนตั๋วเงินแปลงสภาพได้ในวันที่ 25 ส.ค.นี้