สถานการณ์ในตลาดแรงงานของสหรัฐที่ยังคงซบเซาได้จุดชนวนความวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจอาจเผชิญอุปสรรคในการฟื้นตัวเพราะไม่มั่นใจว่ายอดการใช้จ่ายผู้บริโภคจะแข็งแกร่งพอที่จะพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นได้ในเร็วๆนี้
การเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจและรายงานข้อมูลภาคการผลิตที่สดใสได้จุดประกายความหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่ยอดการขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกที่ปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดตอกย้ำว่า ชาวอเมริกันที่กำลังตกงานยังคงเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากในการหางานทำ
โจชัว ชาพิโร นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟอาร์ อิงค์กล่าวว่า "การใช้จ่ายผู้บริโภคเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากต่อการฟื้นตัว ในยามที่ตลาดแรงงานอ่อนแอลงเช่นนี้"
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์หลายท่านคาดว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับ 2-3% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากภาคธุรกิจเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตหลังจากที่สินค้าในสต็อกลดลง แต่การใช้จ่ายยังมีแนวโน้มซบเซา และนักวิเคราะห์คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะเริ่มชะลอตัวในปี 2553
อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังคงได้รับผลกระทบจากตลาดแรงงานที่ซบเซา ขณะที่รายได้ลดน้อยลง และราคาบ้านในหลายพื้นที่ของสหรัฐหดตัวลงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันการลงทุนและการออมก็หดตัวลงเช่นกัน
ทั้งนี้ อัตราว่างงานของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 9.4% ในเดือนก.ค. จากระดับ 9.5% ซึ่งนับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 15 เดือน แต่นักวิเคราะห์ภาคเอกชนและธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มองว่าอัตราว่างงานของสหรัฐอาจพุ่งแตะ 10% ในปีหน้า