ผู้เชี่ยวชาญเผยว่าสภาพคล่องส่วนเกินที่มีอยู่ในระบบธนาคารของจีนอาจส่งผลให้เกิดภาวะฟองสบู่ ซึ่งจะยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความกังวลที่ว่า สถาบันปล่อยเงินกู้ในประเทศจะลดการออกสินเชื่อ หลังจากที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นแล้ว 64%
โกว ซูจิง ประธานของไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์ คอร์ป ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของจีนเปิดเผยว่า ขณะนี้ระบบเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนและเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดทุน ซึ่งเป็นเพราะระบบธนาคารของจีนยังคงมีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่มาก
ธนาคารจีนได้ออกเงินกู้ล็อตใหม่เป็นประวัติการณ์ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงครึ่งปีแรก เพื่อสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 5.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยตลาดหุ้นจีนเข้าสู่ภาวะซบเซาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจากกระแสความกังวลว่ารัฐบาลจะควบคุมยอดเงินกู้ล็อตใหม่เพื่อลดการเก็งกำไรในตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์
ชี มินฮัว นักวิเคราะห์จากไห่ตง ซีเคียวริตี้กล่าวผ่านทางบลูมเบิร์กว่า "การขยายโครงการปล่อยเงินกู้จำนวนมากในช่วงครึ่งปีแรก ทำให้นักลงทุนนำเม็ดเงินไปทุ่มกับตลาดหุ้นและตลาดอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนขยายตัวที่ระดับ 7.9% ในไตรมาส 2 ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตพุ่งขึ้น 25% ในช่วงที่จีนกลายเป็นประเทศแรกที่สามารถพยุงเศรษฐกิจให้ดีดตัวขึ้นจากภาวะตกต่ำทั่วโลก ขณะที่ในเดือนนี้ตลาดหุ้นจีนกลับตกลง 12%
ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการกำกับดูแลด้านธนาคารจีนต้องการให้ผู้ปล่อยกู้เพิ่มสัดส่วนสำรองเงินที่ระดับ 150% ของยอดเงินกู้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในปลายปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 134.8% ในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย. โดยในวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมาทางหน่วยงานขอความร่วมมือให้ธนาคารรับประกันเงินกู้แทนการลงทุนในสินทรัพย์คงที่เพื่อรองรับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ และหลังจากนั้นได้ทางหน่วยงานได้ประกาศแผนการออกมาตรการควบคุมการทำธุรกรรมเงินกู้ที่เข้มงวดมากขึ้น