ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐประจำเดือนส.ค.ปรับตัวสูงขึ้นเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าผู้บริโภคเริ่มมีมุมมองในแง่บวกต่อเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้ามากขึ้น
สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 54.1 จุด จากระดับ 47.4 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และเป็นระดับที่พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า การเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและราคาบ้านในสหรัฐมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาเสนอชื่อให้นายเบน เบอร์นันเก้ ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่ออีกสมัย ซึ่งความเคลื่อนไหวเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่หนุนให้ตลาดเงินคึกคักขึ้น
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับที่เรียกว่าแข็งแกร่งอยู่มาก และอาจไม่สามารถช่วยให้การใช้จ่าย ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดีขึ้น
บิล ชีนีย์ นักวิเคราะห์จากจอห์น แฮนค็อก ไฟแนนเชียล กล่าวว่า "การใช้จ่ายเงินของผู้บริโภคขณะนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินในกระเป๋ามากกว่าที่จะใช้จ่ายตามความต้องการ"
ทั้งนี้ ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อบ้านหรือรถยนต์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้ามากกว่าที่ทำการสำรวจในเดือนก.ค. นอกจากนี้แนวโน้มการจ้างงานก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์ในตลาดแรงงานจะซบเซาอย่างหนักก็ตาม