กระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนามคาดว่า จะสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ได้ประมาณ 1.04 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ลดลงไปถึง 81.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
โดยโครงการลงทุนดังกล่าวคาดว่าจะเป็นโครงการลงทุนที่ได้รับใบอนุญาตใหม่ 504 โครงการมูลค่าประมาณ 5.62 พันล้านดอลลาร์ ลดลงไป 89.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนที่เหลือเป็นโครงการที่มีอยู่เดิมที่มีการเพิ่มเงินลงทุน 149 โครงการ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงขึ้น 3.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงดังกล่าว การชำระเงินในด้าน FDI ของเวียดนาม คาดว่าจะอยู่ที่ 6.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงไป 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
โว ฮอง ฟุค รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุนกล่าวว่า ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกและการปฏิรูปที่เป็นไปอย่างล่าช้าเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เป็นอุปสรรคขัดขวางการทำธุริกจของนักลงทุนต่างชาติในเวียดนาม และเพื่อเป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ กระทรวงได้เรียกร้องให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในภาคกลางและเหนือของเวียดนาม
ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในช่วงขาลง เวียดนามได้ปรับลดเป้าการดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศลงมาเหลือ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 1 ใน 3 ของยอดในปี 2551 ส่วนการชำระเงินเกี่ยวกับ FDI คาดว่า จะอยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์