บริษัทวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ โฮมแทร็ค เปิดเผยว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีในเดือนสิงหาคม หลังจำนวนบ้านลดลงจนทำให้ราคาบ้านในลอนดอนและในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศปรับสูงขึ้น
ราคาบ้านโดยเฉลี่ยในอังกฤษและเวลส์ปรับสูงขึ้น 0.1% ในเดือนสิงหาคมจากเดือนกรกฎาคม แตะ 155,800 ปอนด์ (253,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถือว่าปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2550 และส่งผลให้ราคาบ้านในตอนนี้อยู่ต่ำกว่าปีที่แล้วเพียง 6.7% ซึ่งถือเป็นส่วนต่างที่น้อยที่สุดในรอบปี
ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษกำลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงสุดในรอบกว่า 60 ปี ซึ่งส่งผลให้ราคาบ้านร่วงลงกว่า 12% จากระดับสูงสุดเมื่อเดือนกันยายนปี 2550 จากการเก็บข้อมูลของโฮมแทร็ค อย่างไรก็ตาม เมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษกล่าวว่า แม้เศรษฐกิจฟื้นตัวก็จะฟื้นอย่างช้าๆ
"ความต้องการบ้านที่เพิ่มสูงขึ้นตลอด 7 เดือนติดต่อกันทำให้นายหน้าและบริษัทสำรวจข้อมูลเชื่อว่าราคาบ้านสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้อีกโดยไม่ได้รับผลกระทบจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น" ริชาร์ด ดอนเนลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยจากโฮมแทร็ค กล่าว
ทั้งนี้ ราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้นทั้งในเกรตเตอร์ลอนดอน แองเกลียตะวันออก และทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในอีก 7 ภูมิภาคราคาบ้านยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ในขณะเดียวกันรายงานอื่นๆ ก็ระบุว่าราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้นในอัตราที่เร็วขึ้น โดยรัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่าราคาบ้านในอังกฤษและเวลส์ขยายตัว 1.7% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งถือว่ามากสุดนับตั้งแต่ปี 2547 ในขณะที่เนชั่นไวด์ บิลดิง โซไซตี้ เผยว่าราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้น 1.6% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งถือว่ามากสุดนับตั้งแต่ปี 2549 และปรับตัวสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้ว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน