นายฮิโรฮิสะ ฟูจิอิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นได้ออกมาปฏิเสธข่าวเรื่องที่ตนเองสนับสนุนให้เงินแข็งค่า หลังจากที่เงินเยนขยับลงมาจากระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อนายฟูจิอิได้ออกมาระบุในวันนี้ว่า "เงินเยนเคลื่อนไหวแบบด้านเดียว คือแข็งขึ้นเพียงอย่างเดียวในช่วงที่ผ่านมา"
นับตั้งแต่ที่นายฟูจิอิได้เข้ามาทำหน้าที่รมว.คลังในเดือนนี้ เขาเคยกล่าวว่า เขาไม่สนับสนุนให้เงินเยนอ่อนค่า และตั้งคำถามถึงเรื่องแนวคิดในการเข้าไปแทรกแซง ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ตามมาว่า รัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซงตลาดเงิน
บลูมเบิร์กรายงานว่า เงินเยนแข็งค่าขึ้นมาแล้ว 19% ในปีที่แล้ว ส่งผลให้สินค้าส่งออกของญี่ปุ่นมีราคาแพงมากขึ้น และยังทำให้มูลค่ากำไรของบริษัทเหล่านี้ลดลงตามไปด้วย โดยพรรคดีพีเจ ซึ่งชนะศึกเลือกตั้งและเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเมื่อเดือนที่แล้วนั้น ระบุว่า เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอาจจะเป็นประโยชน์ต่อครัวเรือน เนื่องจากสินค้าที่มีการนำเข้าจะมีราคาถูกลงกว่าเดิม
นายฟูจิอิซึ่งกล่าวในงานสัมนาที่นสพ.ซันเคอิและบลูมเบิร์กร่วมกันจัดว่า ตนเองไม่เคยพูดว่าจะปล่อยให้เงินเยนแข็งค่า และก็ไม่ได้ยินดีนักกับการที่เงินเยนแข็งค่าแต่ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเรื่องการเข้าไปแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา พร้อมกับชี้ว่า ประเทศต่างๆไม่ควรจะแข่งกันทำให้ค่าเงินอ่อนตัวลงและความเคลื่อนไหวในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนก็ควรจะมีเสถียรภาพ
รมว.คลังญี่ปุ่นย้ำว่า ภาคครัวเรือนควรจะเป็นฝ่ายสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจของประเทศมากกว่ากลุ่มผู้ส่งออก ยุคของการเฟื่องฟูจากธุรกิจส่งออกและบริษัทรายใหญ่ๆได้สิ้นสุดลงไปแล้ว เราต้องการให้ความสำคัญกับนโยบายที่จะเร่งการใช้จ่ายของผู้บริโภคและดีมานด์ภายในประเทศ ซึ่งนโยบายต่างๆของเรา เช่น การให้เงินด้านการเลี้ยงดูเด็กนั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะให้กับทุกคน
นายฟูจิอิกล่าวว่า รัฐบาลวางแผนที่จะจัดสรรเงินทุนบางส่วนจากงบประมาณเสริมของรัฐบาลชุดก่อนมาเพื่อใช้สนับสนุนแผนการช่วยเหลือด้านการเลี้ยงดูเด็ก และควรจะมีการนำงบประมารออกมาใช้อีก หากเศรษฐกิจย่ำแย่ลง