สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 50.9 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 13 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะอยู่ที่ 50.0 จุด โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว
แอนโทนี เนเวส หัวหน้านักวิเคราะห์ของ ISM กล่าวกับเอพีว่า ดัชนีภาคบริการที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย.เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวจากภาวะถดถอยแม้อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูงก็ตาม
ดัชนีภาคบริการของ ISM คิดเป็นร้อยละ 80 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ และยังเป็นดัชนีชี้วัดธุรกิจบริการที่ครอบคลุมถึง โรงพยาบาล ห้างค้าปลีก ธุรกิจบริการด้านการเงิน และธุรกิจขนส่ง ซึ่งธุรกิจค้าปลีกจำเป็นต้องพึ่งพาตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70% ของตัวเลขจีดีพีสหรัฐ
ทางการสหรัฐระบุว่า ชาวอเมริกันใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2544 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายรถยนต์คันเก่าแลกคันใหม่ของรัฐบาล ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลในสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ การจ้างงานในภาคบริการเดือนก.ย.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 44.3 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค.ที่ระดับ 43.5 จุด