นายดาร์มิน นาซูเชียน รักษาการผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียยอมรับในวันนี้ว่า ธนาคารกลางได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินรูเปียห์
นายดาร์มินเปิดเผยกับสำนักข่าวเดติคอมของอินโดนีเซียว่า "โดยพื้นฐานแล้วเรามักจะหนุนค่าเงินรูเปียห์ให้เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับปัจจุบัน แต่การที่เราเข้าแทรกแซงตลาดด้วยการเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐครั้งนี้เราได้คำนวนปัจจัยพื้นฐานของรูเปียห์แล้ว เราเพียงแต่ไม่ต้องการให้รูเปียห์ผันผวนสูงเกินไป เพื่อที่นักลงทุนจะสามารถคาดการณ์สถานการณ์ในตลาดได้"
เมื่อวานนี้ ค่าเงินรูเปียห์ยืนอยู่ที่ระดับ 9,300 รูเปียห์ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ปี 2551 ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรับดิ่งลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ รวมถึงเงินเยน ซึ่งส่งผลกระทบต่อหนี้สินในต่างประเทศของอินโดนีเซียด้วย เพราะเงินกู้บางส่วนอยู่ในรูปสกุลเงินเยน
"เงินกู้ในต่างประเทศของอิโดนีเซียอยู่ในรูปสกุลเงินเยนประมาณ 30-35% หากเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ก็จะทำให้เราลำบาก จากข้อมูลของกระทรวงการคลังในขณะนี้พบว่า อินโดนีเซียเป็นหนี้ญี่ปุ่นอยู่ 2.786 หมื่นล้านดอลลาร์" ศรี มัลยานี อินทราวาตี รมว.คลังอินโดนีเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าว
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ธนาคารกลางหลายแห่งในเอเชียเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราด้วยการเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ธนาคารกลางฮ่องกง ธนาคารกลางไต้หวัน ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ และธนาคารกลางอินโดนีเซีย เพื่อทำให้สกุลเงินในประเทศของตนเองอ่อนค่าลง โดยธนาคารกลางส่วนใหญ่มองว่าการร่วงลงของดอลลาร์เป็นปัจจัยคุกคามต่อเศรษฐกิจของประเทศเอเชียที่ต้องพึ่งพาการส่งออก สำนักข่าวซินหัวรายงาน