เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันหลังทางการรายงานยอดค้าปลีกที่ไต่ระดับขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งบ่งชี้ว่าธนาคารกลางอาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ออสเตรเลียเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและเคลื่อนไหวเฉียดระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 ก่อนที่ทางการจะเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่อาจทำให้มีกระแสคาดการณ์เพิ่มเติมว่า ธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ โดยนายอลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์กล่าวเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมาว่าเขายังไม่มีแผนที่จะขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปีหน้า
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11:02 น.ตามเวลาในกรุงเวลลิงตัน เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยายตัวขึ้น 0.5% แตะที่ 73.66 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดัชนีพุ่งแข็งค่าขึ้น 0.4% แตะที่ 66.19 เยน/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียซื้อขายที่ 90.74 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 90.73 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
"ตลาดหุ้นจะยังคงเดินหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งจะทำรัฐบาลเริ่มกลับมาใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินอีกครั้งในช่วงเดือนม.ค.หรือมี.ค. ซึ่งตลาดเงินจะได้รับปัจจัยหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ" กอนห์ โกห์ นักวิเคราะห์จาก ANZ National Bank Ltd.
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติของนิวซีแลนด์เผยว่า ยอดค้าปลีกของนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 1.1% จากเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะกระเตื้อง 0.5%
นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยของนิวซีแลนด์อยู่ที่ 2.5% ส่วนอัตราดอกเบี้ยของออสเตรเลียอยู่ที่ระดับ 3.25% เมื่อเทียบกับระดับ 0.1% ในญี่ปุ่นและ 0-0.25% ในสหรัฐ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่ต่างกันเช่นนี้ดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาถือครองสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงมากกว่า