GfK AG ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดรายใหญ่ของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.ร่วงลงแตะระดับ 4 จุด จากระดับ 4.2 จุดในเดือนต.ค. ซึ่งสวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 4.5 จุด และนับเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน เนื่องจากผู้บริโภควิตกกังวลว่าราคาพลังงานและอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นจะส่งบั่นทอนกำลังซื้อของผู้บริโภคและขัดขวางกระบวนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
Gfk กล่าวในรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีในเดือนนี้ ส่งผลให้อำนาจซื้อของผู้บริโภคถูกบั่นทอน นอกจากนี้ อัตราว่างงานที่สูงขึ้นยังส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่าย และแม้ว่าความเชื่อมั่นภาคธุรกิจประจำเดือนต.ค.ของเยอรมนีพุ่งขึ้นแตะระดับ 91.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี แต่ชาวเยอรมนีส่วนใหญ๋วิตกกังวลว่าการที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลหมดอายุลงและการแข็งค่าของยูโรจะส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าลงในปีหน้า
รัฐบาลเยอรมนีได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะติดลบ 5% ปีนี้ และกลับมาขยายตัวได้ 1.2% ในปีหน้า เทียบกับการคาดการณ์เมื่อเดือนเม.ย.ว่า เศรษฐกิจของประเทศจะหดตัว 6% ในปี 2552 และขยายตัวแค่ 0.5% ในปี 2553
ขณะที่ องค์กรวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำ 8 แห่งซึ่งรวมถึงสถาบัน Ifo Institute และ Kiel`s Ifw เผยเศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มหดตัวลงน้อยเกินคาดในปีนี้ และคาดว่าจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งในปีหน้า หลังตลาดเงินมีเสถียรภาพมากขึ้นและภาคการส่งออกเริ่มฟื้นตัว บลูมเบิร์กรายงาน