(เพิ่มเติม) ธปท. มั่นใจสินเชื่อภาคธุรกิจฟื้นตัวตามสัญญาณศก.ดีขึ้น-ลงทุนภาครัฐเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 30, 2009 12:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวนวพร มหารักขกะ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 4/52 คาดว่าสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์จะขยายตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อภาคธุรกิจที่หดตัวไปมากในช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจากในช่วงปลายปีนี้เศรษฐกิจมีสัญญาณที่ดีขึ้น ประกอบกับการลงทุนโครงการด้านสาธารณูปโภคภาครัฐเพิ่มขึ้น น่าจะทำให้ความต้องการสินเชื่อของภาคธุรกิจเร่งตัวขึ้นด้วย

"ก็ต้องดูว้าภาคธุรกิจจะเกิดความต้องการสินเชื่อมีมากแค่ไหน เพราะการลงทุนยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน แต่ไตรมาส 3 เทียบกับ 2 ไตรมาสที่ผ่านมาก็มีมากขึ้นแล้ว"นางสาวนวพร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังมุ่งให้ธนาคารพาณิชย์ดูแลความเสี่ยงในระดับที่เหมาะสม ซึ่งหากเศรษฐกิจดีขึ้น การทำกำไรก็อาจจะดีขึ้น แต่ ธปท.คงไม่ห้ามเรื่องการปล่อยสินเชื่อ แต่ธนาคารพาณิชย์ต้องอ่านให้ขาด เพราะที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์บางแห่งหย่อนยานเรื่องหลักเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อ เพราะหากเป็น NPL แล้ว ธนาคารพาณิชย์จะมีภาระเรื่องการกันสำรองมากขึ้น

ธปท.เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 3/52 ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์โดยรวมมีเสถียรภาพ แต่สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์หดตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนจากที่สินเชื่อธุรกิจหดตัว อย่างไรก็ตาม สินเชื่อ SME เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขณะที่เงินฝากขยายตัวชะลอลง สภาพคล่องทรงตัว สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงเล็กน้อย ทำให้กำไรจากการดำเนินงานค่อนข้างทรงตัว ส่งผลให้ฐานะเงินกองทุนสูงขึ้นเล็กน้อย

สิ้นไตรมาส 3/52 ยอดคงค้างสินเชื่อ 6,471 พันล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 2/52 ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ที่ 6,560 พันล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของความต้องการสินเชื่อหมุนเวียน ขณะที่สินเชื่อภาคธุรกิจหดตัว แต่ช่วงไตรมาส 4 ความต้องการสินเชื่อน่าจะเพิ่มขึ้น

ด้านเงินฝากขยายตัวชะลอลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 2.2% จากการเบิกถอนเงินของส่วนราชการตามงบประมาณ และการถอนเงินฝากของลูกค้ารายย่อยเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลและกองทุนรวม หากรวมการระดมเงินจากการออกตั๋วแลกเงิน (B/E) เข้ากับเงินฝากแล้ว สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์นับว่าทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากและ B/E เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 85.3% ในไตรมาสก่อน เป็น 85.4%

ทั้งนี้ เงินฝากไตรมาส 3/52 อยู่ที่ 6,845 พันล้านบาท จากไตรมาส 2/52 อยู่ที่ 6,913 พันล้านบาท ลดลงประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ส่วนสินทรัพย์ของระบบธนาคารพาณิชย์อยู่ที่ 9,989 พันล้านบาท

สัดส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมลดลงเล็กน้อยทั้ง gross และ net NPL เหลือ 5.3% และ 2.9% ตามลำดับ เนื่องจาก NPL รายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง ประกอบกับมีการรับชำระคืนหนี้อย่างต่อเนื่อง ส่วนสินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษลดลงเช่นกัน เหลือ 3.5% ของสินเชื่อรวม เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ยังคงดูแลคุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด NPL ใหม่ อย่างไรก็ดี ความสามารถในการชำระหนี้และคุณภาพสินทรัพย์ขึ้นอยู่กับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง

ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรจากการดำเนินงานใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนที่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิและเงินปันผลต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin - NIM) ทรงตัวที่ 2.9% แต่ค่าใช้จ่ายสำรองที่ลดลงในไตรมาสนี้ ทำให้ระบบธนาคารพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 2.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 6 พันล้านบาท อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Return on Asset - ROA) เพิ่มขึ้นเป็น 1% ผลกำไรที่มีอย่างต่อเนื่องดังกล่าว ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) เพิ่มขึ้นเป็น 16.5% โดยอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Tier - 1 ratio) เพิ่มขึ้นเป็น 12.9%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ