สำนักงานสถิติออสเตรเลียเปิดเผยว่า ยอดการส่งออกของออสเตรเลียในเดือนก.ย.พุ่งสูงขึ้น 5% นับเป็นสถิติที่สูงที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี นับเป็นสถานการณ์ที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ยอดการส่งออกที่พุ่งสูงขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนจากการส่งออกถ่านหินและทองคำ นอกจากนี้ ยอดส่งออกที่ดีดตัวขึ้นยังคงช่วยชดเชยยอดการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและทำให้ยอดขาดดุลการค้าขยายตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1.85 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์นักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดว่า จะอยู่ที่ 2.15 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
บีเอชพี บิลลิตัน และริโอ ทินโต กรุ๊ป ได้เพิ่มการผลิตสินแร่เหล็กแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 3 หลังจากที่ความต้องการเหล็กในจีนดีดตัวขึ้น นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นายเกลนน์ สตีเฟนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียจะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวันที่ 1 ธ.ค.อีก 0.25% เป็น 3.75%
แอนเน็ต บีชเชอร์ นักเศรษฐศาสตร์ของทีดี ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า ยอดส่งออกที่พุ่งสูงขึ้นนี้ช่วยสนับสนุนแนวคิดในระยะยาวของธนาคารกลางที่ว่า การขยายตัวด้านการส่งออกนั้นสูงกว่าคาดการณ์ เมื่อพิจารณาจากการค้าทั่วโลกที่ชะลอตัวลง
เมื่อเดือนก.ย. ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.02 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2551 โดยการส่งออกถ่านหินเพิ่มขึ้น 9% จากระดับเดือนส.ค.
ขณะที่ยอดการส่งออกทองคำทะยานขึ้น 64% เนื่องจากนักลงทุนต้องการลงทุนในโลหะที่มีค่า เพื่อเป็นทางเลือกจนทำให้ราคาทองเมื่อวานนี้ดีดตัวสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 1,097.72 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อออนซ์