ภาคการส่งออกของฟิลิปปินส์หดตัวลงน้อยสุดในรอบ 10 เดือนในเดือนกันยายน หลังเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวช่วยให้อุปสงค์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เริ่มฟื้นตัวตาม
สำนักงานสถิติรายงานว่ายอดส่งออกของฟิลิปปินส์หดตัว 18.3% แตะ 3.63 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งดีกว่าเดือนสิงหาคมที่ร่วงลงถึง 21% แต่ยังแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจของบลูมเบิร์กคาดว่าจะหดตัวเพียง 17.8%
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วธนาคารกลางฟิลิปปินส์ตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม พายุหลายลูกที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ตั้งแต่เดือนกันยายนทำให้โครงสร้างพื้นฐานและพืชผลทางการเกษตรเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 3.8 หมื่นล้านเปโซ (810 ล้านดอลลาร์) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้สภาพการค้าโลกจะเริ่มดีขึ้นแล้วก็ตาม
ปรากริติ โซฟัต นักเศรษฐศาสตร์จากบาร์เคลย์ส พีแอลซี ซึ่งประจำการอยู่ในสิงคโปร์ กล่าวว่า ภาคการส่งออกของฟิลิปปินส์อาจกลับมาขยายตัวอีกครั้งในเดือนหน้าเนื่องจากยอดขายเซมิคอนดักเตอร์เริ่มดีดตัวขึ้น
สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่า ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกขยายตัว 8.2% ในเดือนกันยายนจากเดือนสิงหาคม ซึ่งถือว่าขยายตัวเร็วสุดในรอบ 7 เดือน ถือเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยสิ้นสุดลงแล้ว
ขณะเดียวกัน เท็กซัส อินสทรูเมนท์ส อิงค์ และอีกหลายบริษัทซึ่งฟิลิปปินส์ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ให้มากกว่าครึ่งของยอดส่งออกทั้งหมด มียอดขายลดลง 13.2% แตะ 2.25 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายนเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งดีกว่าเดือนสิงหาคมที่ร่วงลงถึง 18.7%
ทั้งนี้ ภาคการส่งออกมีสัดส่วนกว่า 30% ของจีดีพีของฟิลิปปินส์ ขณะที่เงินที่ชาวฟิลิปปินส์ในต่างประเทศส่งกลับบ้านมีสัดส่วนราว 10% สำหรับไตรมาส 2 จีดีพีฟิลิปปินส์ขยายตัวเร็วขึ้นแตะ 1.5% จาก 0.6% ในไตรมาสแรก ซึ่งถือว่าขยายตัวช้าสุดในรอบทศวรรษ