คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.1% ในการประชุมระยะเวลา 2 วันที่เสร็จสิ้นลงในวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
นอกจากนี้ บีโอเจยังยกระดับการประเมินเศรษฐกิจเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยระบุว่า "เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้น" ซึ่งถือเป็นการประเมินในทิศทางที่บวกมากขึ้นเมื่อเทียบกับการประเมินครั้งก่อนที่ระบุว่า "เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น"
บลูมเบิร์กรายงานว่าการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยและการยกระดับการประเมินเศรษฐกิจของบีโอเจมีขึ้น หลังจากนายนาโอโตะ คัง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจและการคลังญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะเงินฝืดเต็มตัวแล้ว และร้องให้บีโอเจเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการยับยั้งปัญหาเงินฝืด ขณะที่นักการเมืองหลายคนในญี่ปุ่นเรียกร้องให้บีโอเจแก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น
ด้านนายฮิโรชิสะ ฟูจิอิ รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวว่า เขารู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อภาวะเงินฝืดในญี่ปุ่น และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าญี่ปุ่นจะหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดได้เมื่อใด ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาคสาธารณะไปในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะหนุนดัชนีราคาผู้บริโภคและราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นได้
นักวิเคราะห์จาก HSBC Securities Japan คาดการณ์ว่า ภาวะเงินฝืดที่เกิดขึ้นภายในประเทศอาจทำให้บีโอเจไม่มีทางเลือกอื่นๆนอกจากการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปอีกระยหนึ่ง และมีความเป็นได้ที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะขอให้บีโอเจซื้อพันธบัตรมากขึ้น
ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ของญี่ปุ่น ขยายตัวในอัตรา 4.8%ต่อปี ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส และเป็นการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 2 ปี แต่ดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นดิ่งลงหนักสุดในรอบ 51 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าแม้เศรษฐกิจขยายตัวขึ้น แต่ญี่ปุ่นยังไม่หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด