กกร.เร่งรัฐวางหลักเกณฑ์ HIA พร้อมหาทางร่นระยะเวลาจัดทำเหลือ 4-5 เดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 8, 2009 15:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ว่า ที่ประชุม กกร.วันนี้ มีมติให้นำเสนอข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการ 4 ฝ่ายแก้ไขปัญหามาบตาพุดและรัฐบาล เพื่อเร่งออกหลักเกณฑ์การจัดทำรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ(HIA)โดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นแนวทางให้กับภาคเอกชนในการดำเนินการให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง

พร้อมกันนั้น ภาครัฐควรเร่งรัดการทำงานด้านต่างๆ ให้มีความรวดเร็ว โดยเฉพาะขั้นตอนในการจัดทำ HIA เพราะภาคเอกชนมองว่าหากต้องใช่เวลาถึง 14-15 เดือนจะนานเกินไป ควรจะเร่งให้แล้วเสร็จภายในเวลา 4-5 เดือน เพื่อลดกระทบในด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากการลงทุนมีความล่าช้า

นอกจากนั้น ยังเรียกร้องขอให้รัฐพิจารณาให้การจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) และ HIA ต่อยอดจากของเดิมที่ภาคเอกชนดำเนินการอยู่ไปได้เลย ไม่ต้องมาเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ เพราะทิศทางที่ได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ก็ทำมาอย่างถูกต้องแล้ว

ด้านนายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลพิจารณาหาหน่วยงานหลักเพื่อเป็นเจ้าภาพดูแลเรื่องนี้เพียงหน่วยงานเดียว เพื่อให้การดำเนินการทุกอย่างเกิดความรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อชุมชน เศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นนักลงทุน เพราะขณะนี้นักลงทุนต่างชาติจับตาในเรื่องนี้อยู่

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทางสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้กลับไปดูแลลูกค้าที่มีโครงการลงทุนในพื้นที่มาบตาพุดอย่างใกล้ชิด แต่ก็เชื่อว่าคงไม่มีปัญหา เพราะโครงการส่วนใหญ่เป็นของ 2 กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการชำระเงิน เพระขณะนี้ก็ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดขอเลื่อนชำระเงินออกไป

นายอภิศักดิ์ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย(KTB) กล่าวอีกว่า สำหรับ KTB เองมีเอกชนที่มีโครงการลงทุนในมาบตาพุดขอวงเงินสินเชื่อไว้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทเศษ โดยเบิกจ่ายไปแล้วราว 2.9 พันล้านบาทถือว่าน้อยมาก และการที่โครงการลงทุนหยุดชะงักไปก็คงไม่มีผลกระทบมากนัก เพราะการเบิกใช้วงเงินจะพิจารณาตามความคืบหน้าของงาน

อีกทั้งโครงการที่ปล่อยกู้ไปเป็นของบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งโครงการที่ถูกระงับก็เป็นส่วนต่อขยายหรือส่วนเพิ่ม หากยังดำเนินการไม่ได้ในขณะนี้ก็ยังไม่น่าจะมีปัญหามาก เพราะโครงการหลักยังดำเนินการอยู่ ดังนั้น ธนาคารก็คงจะยังไม่ต้องตั้งสำรองเพิ่ม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ