ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐในเดือนพ.ย.มีแววพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากยอดขายสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นได้ช่วยกระตุ้นให้บริษัทต่างๆเพิ่มการลงทุนและสั่งสินค้าสำรองในสต็อกมากขึ้น ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการอาจปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์คาดว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย.หลังจากที่ร่วงลง 0.6% ในเดือนต.ค. และหากไม่รวมอุปกรณ์ด้านการขนส่ง ตัวเลขดังกล่าวจะขยายตัว 1.1% หลังจากที่ทรุดตัวลง 1.3% ในเดือนก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ในส่วนของตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานนั้น มีแนวโน้มลดลงมาอยู่ที่ระดับ 470,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 480,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัทต่างๆ เช่น 3M เป็นหนึ่งในบริษัทที่คาดว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการวิจัยและการผลิตสินค้าใหม่ๆในปีหน้า ซึ่งล่าสุด ซีอีโอของ 3M ได้กล่าวถึงแผนการปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายเงินทุนในปีหน้าขึ้นสูงสุด 15% แตะที่ประมาณ 1.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทจะใช้จ่ายเงิน 100 ล้านดอลลาร์เพื่อการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นการขยายตัวด้านการผลิตและการจ้างงานมากขึ้น หลังจากที่บริษัทได้ปรับลดพนักงานทั่วโลกไปกว่า 6,000 ตำแหน่งตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน สต็อกสินค้าที่ปรับตัวลดลงในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้จะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โรงงานหลายแห่งเร่งเดินเครื่องการผลิตมากขึ้น
ทั้งนี้ ยอดขายสินค้าจากกลุ่มผู้ผลิต รวมถึงยอดค้าส่ง และยอดค้าปลีกเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. ทำให้ภาคธุรกิจเริ่มมีความมั่นใจต่อเศรษฐกิจและเริ่มสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ๆ
โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องมือเครื่องจักรและซอฟท์แวร์ขยายตัวขึ้น 1.5% ในไตรมาส 3 ซึ่งทำสถิติขยายตัวขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550