สถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งมาเลเซีย (MIER) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจมาเลเซียอาจเผชิญกับความท้าทายที่หนักหนาสาหัสมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของมาเลเซีย อาจเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงเป็นสองเท่า
สำนักข่าวเบอร์นามารายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนายมูฮัมหมัด อาริฟฟ์ อับดุล การีม ผู้อำนวยการบริหารของ MIER ว่า เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวจากภาวะถดถอยอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าจะส่งผลกระทบถึงมาเลเซียด้วย นอกจากนี้ การเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐ ยังอยู่ในภาวะเปราะบาง ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้เศรษฐกิจมาเลเซียเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรงขึ้น
นายมูฮัมหมัด อาริฟฟ์ยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรป และประเทศอื่นๆ ฟื้นตัวขึ้นได้ก็เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งคาดว่ารัฐบาลอาจจะต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสอง จึงจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม นายมูฮัมหมัด อาริฟฟ์มองว่าการที่ประเทศเหล่านี้พึ่งพามาตรการฟื้นฟูมากเกินไปอาจทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างไม่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการ MIER ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลในสหรัฐและประเทศอื่นๆประกาศใช้นั้น จะส่งผลให้เกิดภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์และเงินเฟ้อ ซึ่งจะสร้างปัญหาต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ พร้อมกับเตือนว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอาจทำให้ธนาคารกลางต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะยิ่งฉุดรั้งเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ยากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน