ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนธ.ค.พุ่งสูงเกินคาดและขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี อีกทั้งยังไต่ระดับขึ้นเหนือจุดที่บ่งชี้ถึงการขยายตัวที่สดใส ขณะที่การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7
สำนักงานจัดการอุปทานเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐที่ขยายตัวแตะระดับ 55.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2549 ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างที่ร่วงลง 0.6% ในเดือนพ.ย. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวร่วงลงน้อยที่สุดในรอบกว่า 6 ปี
จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้นช่วยสร้างปัจจัยหนุนให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีบรรยากาศการซื้อขายที่คึกคักรับศักราชใหม่ เนื่องจากรายงานดังกล่าวบ่งชี้ว่า โรงงานหลายแห่งในสหรัฐเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น ซึ่งสะท้อนภาพรวมอุตสาหกรรมการผลิตที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกับในยุโรปและจีน โดยภาคการผลิตในยุโรปเดือนธ.ค.ที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 21 เดือน ซึ่งดัชนีภาคการผลิตของกลุ่มประเทศยูโรโซนที่เพิ่มขึ้นแตะ 51.6 จุด จากระดับ 51.2 จุดในเดือนพ.ย. ส่วนดัชนีภาคการผลิตของจีนในเดือนเดียวกันก็ขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 56.1 จุด
นอกจากนี้ อุปสงค์จากทั่วโลกที่กระเตื้องขึ้นอันเป็นผลสืบเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังช่วยหนุนยอดสั่งซื้อสินค้าให้เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า ขณะนี้ภาคการผลิตทั่วโลกขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากช่วยปลายปีที่ผ่านมา และเราคาดว่าตัวเลขการขยายตัวดังกล่าวจะพุ่งสูงกว่านี้อีกในอนาคต
ขณะเดียวกัน มีบางกระแสคาดว่าบริษัทหลายแห่งจะเริ่มว่าจ้างพนักงานเพิ่มขึ้น หลังจากที่ปลดพนักงานไป 4.1 ล้านคนใน 11 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่กิจกรรมภาคการผลิตจะกลับคืนสู่ภาวะปกติหลังผ่านพ้นช่วงเวลาที่แสนสาหัสในยุคเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ประชาชนก็เริ่มคลายความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจได้แล้ว โดยหลายฝ่ายคาดว่า ตัวเลขจ้างงานของสหรัฐในเดือนธ.ค.อาจร่วงลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนธ.ค.2550