พณ.เชื่อ AFTA ดันการค้าไทย-อาเซียนเพิ่มอีกปีละ 25%ทำส่งออก 53 เข้าเป้า

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 5, 2010 17:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่ตั้งแต่ 1 ม.ค.53 เป็นต้นไป ข้อตกลงการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน(AFTA) มีผลบังคับใช้เต็มรูปแบบนั้น เชื่อว่าจะทำให้มูลค่าการค้าระหว่างไทยและอาเซียนเพิ่มขึ้นปีละ 25% จากเดิมที่ขยายตัวเฉลี่ยปีละ 20% โดยอาเซียนถือเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย นำหน้าตลาดเดิมอย่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป

สำหรับในปี 52 ไทยส่งออกไปอาเซียนมีมูลค่า 41,320 ล้านดอลลาร์ และนำเข้าจากอาเซียน 30,920 ล้านดอลลาร์ เกินดุลการค้า 10,400 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนต้องใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจากข้อตกลง AFTA ให้มากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายการออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ AFTA ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 80% ของมูลค่าการค้าไทยไปอาเซียนจากปี 52 ที่ใช้สิทธิไม่ถึง 50% ส่วนปี 51ใช้สิทธิมูลค่า 10,734 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 38.88%

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.53 ยังมีอีกหลายข้อตกลงการค้าเสรี(FTA) ที่มีการลดภาษีนำเข้าเป็น 0% เพิ่มขึ้นในสินค้าอีกหลายรายการ เช่น FTA อาเซียน-จีน, FTA ไทย-ออสเตรเลีย, FTA ไทย-นิวซีแลนด์ ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าได้มากขึ้น และจะมีส่วนช่วยผลักดันให้มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในปี 53 ขยายตัวได้ 14% ตามเป้าหมายแน่นอน

"ถ้าเราอยากได้ประโยชน์จากการเปิดเสรี เราก็ต้องลดภาษีลงด้วยไม่ใช่ปิดกั้นไว้ แต่เราก็ยังมีมาตรการดูแลการนำเข้า นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการค้าระหว่างประเทศ(กนศ.) ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานยังได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการติดตามผลกระทบจากการเปิดเขตการค้าเสรี ดูแลสินค้านำเข้าภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีทั้งหมดอีก ขณะเดียวกันกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์ยังมีกองทุนช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรี จึงเชื่อว่ามาตรการทั้งหมดจะรองรับผลกระทบได้แน่นอน" นายอลงกรณ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ