สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนแอได้กระตุ้นนักลงทุนให้ซื้อทองคำเพราะเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง โดยสกุลเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเนื่องจากนักลงทุนมองว่าสัญญาณบ่งชี้ที่ซบเซาของเศรษฐกิจอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,136.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 17.80 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,116.80-1,141 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 18.175 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 37.50 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,558.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 20.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 427.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.25 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จากบริษัท ลาซาล ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป ในเมืองชิคาโก กล่าวว่า สัญญาทองคำทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว
ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 84,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 73,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าในเดือนพ.ย.ที่บ่งชี้ว่าภาคเอกชนลดการจ้างงานลงจำนวนมากถึง 145,000 ตำแหน่ง