นายมูครีซ์ มหาธีร์ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าระหว่างประเทศของมาเลเซีย คาดการณ์ว่า มาเลเซียจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) ได้มากขึ้นในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ระยะฟื้นตัว และนักลงทุนมีความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาลงทุนในมาเลเซียมากขึ้น โดยคาดว่าภาคบริการจะได้รับประโยชน์จากเม็ดเงิน FDI มากที่สุด
นายมูครีซ์คาดว่า ภาคบริการของมาเลเซียจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัว อีกทั้งจะช่วยหนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยี กระตุ้นการจ้างงาน และเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจบริการของมาเลเซียที่จะควบรวมกิจการกับบริษัทต่างชาติ
การแสดงความคิดเห็นของนายมูครีซ์มีขึ้นหลังจากพบปะเจรจากับกลุ่มวิสาหกิจมาเลเซีย ในที่ประชุมความร่วมมือด้านการค้าระหว่างประเทศประจำปี 2010 โดยเขากล่าวว่าจีนเป็นแหล่งเงินทุนต่างชาติที่สำคัญสำหรับมาเลเซีย และรัฐบาลคาดหวังว่านักลงทุนจีนจะให้มาเลเซียเป็นฐานการเพิ่มมูลค่าสินค้าเพื่อการส่งออก ส่วนประเทศอื่นๆที่เป็นแหล่งเงิน FDI ที่สำคัญคือ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และตะวันออกกลาง
เม็ดเงิน FDI ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2552 ของมาเลเซียมีอยู่เพียง 1.26 หมื่นล้านริงกิต หรือ 3.6 พันล้านดอลลาร์ ร่วงลง 79% ต่อปี ขณะที่นายมูครีซ์คาดว่าเม็ดเงิน FDI ตลอดปี 2552 จะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านริงกิต หรือ 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน