- บริษัท สเตท กริด คอร์ป วางแผนที่จะออกรายงานการกำหนดมาตรฐานสำหรับโครงข่ายระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ (smart grid) ก่อนเทศกาลฤดูใบไม้ผลิของจีนในปี 2553 และจะเปิดตัวโครงการทดสอบ smart grid ระยะที่สอง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวบ่งชี้ว่าจีนมีการเตรียมความพร้อมที่จะผลักดันโครงข่าย smart grid ซึ่งกำหนดเปิดตัวในปี 2553 ให้ใช้งานได้เต็มรูปแบบ
2. วอลุ่มการทำสัญญาในอุตสาหกรรมถ่านหินตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงวันที่ 13 ม.ค.2553 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 1.5 พันล้านตัน ซึ่งราคาสัญญาซึ่งกำหนดโดย 3 บริษัทถ่านหินยักษ์ใหญ่ รวมถึงบริษัท เจิ้นหัว, ไชน่า โคล และต้าถง โคล ปรับตัวเพิ่มขึ้น 30 - 40 หยวน/ตัน ซึ่งทำให้อัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยของราคาสัญญาถ่านหินทั่วประเทศมีแนวโน้มเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 30 - 40 หยวน/ตัน
3. ผลผลิตถ่านหินที่มณฑลชานซี ซึ่งเป็นฐานการผลิตถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีอยู่ทั้งสิ้น 615 ล้านตันในปี 2552 ลดลง 6.25% จากปีก่อนหน้านั้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าผลผลิตถ่านหินในมณฑลชานซีจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 700 ล้านตันในปี 2553 เนื่องจากการควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมถ่านหินของมณฑลแห่งนี้
4. บริษัท สเตท กริด และบริษัท ไชน่า เซาเทิร์น เพาเวอร์ กริด สองบริษัทระบบพลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน ตัดสินใจเลือกการก่อสร้างสถานีชาร์จพลังงานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่มุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาพลังงานทางเลือกใหม่
ก่อนหน้านี้ ทั้งสองบริษัทได้ดำเนินโครงการนำร่องบางส่วนไปแล้ว และวางแผนที่จะสร้างโรงงานชาร์จพลังงาน โดยเฉพาะเพื่อให้บริการกับรถยนต์โดยสารพลังงานไฟฟ้า โดยคาดว่าจะให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2553
5. บริษัท หัวเตี้ยน เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หนึ่งในห้าพลังงานรายใหญ่ของจีนประกาศว่า ผลผลิตไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มขึ้น 6.8%ต่อปี แตะที่ 107.5 ล้านเมกกะวัตต์ เพราะได้ปัจจัยหนุนจากบริษัทในเครือแห่งใหม่ที่ดำเนินธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน