สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นขานรับการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคของออสเตรเลียประจำไตรมาส 4 ปี 2552 ที่พุ่งขึ้น 0.5% จากไตรมาสก่อนหน้านี้ และเพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางจะขึ้นดอกเบี้ยอีกระลอกในสัปดาห์หน้า
สำนักงานสถิติออสเตรเลียเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคไตรมาส 4 ไต่ระดับขึ้น 0.5% ต่อเนื่องจากที่พุ่งสูงขึ้น 1% ในไตรมาส 3 โดยตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.4%
ณ เวลา 11:35 น. ตามเวลาท้องถิ่นในซิดนีย์ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียไต่ระดับขึ้นแตะที่ 90.13 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 89.96 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า การรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคที่พุ่งสูงขึ้นในวันนี้จะสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลางต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาสนี้อีกระลอกหนึ่ง หลังจากที่ได้นำร่องขึ้นดอกเบี้ยก่อนประเทศอื่นๆเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนนี้ก็พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือนท่ามกลางปัจจัยหนุนจากตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี
โดยในช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค.ที่ผ่านมา ออสเตรเลียรายงานตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้น 135,700 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนที่ระดับ 5.5%
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ของออสเตรเลียได้ออกมาตรการจัดสรรเงิน 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับภาคครัวเรือน ซึ่งได้ช่วยหนุนให้ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่สามารถหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในปีที่ผ่านมา
ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียมาอยู่ที่ระดับ 2.5% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์เมื่อเดือนต.ค.ว่าจะอยู่ที่ 2% ก่อนที่จะไต่ระดับขึ้นแตะ 3% ในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของออสเตรเลียที่ดีขึ้นได้สร้างแรงกดดันให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งธนาคารกลางตั้งเป้ารักษาระดับเงินเฟ้อไว้ที่ 2-3%