นายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู ของกรีซประกาศยืนหยัดแก้ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศด้วยตัวเอง ลั่นไม่ขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่น หวั่นการกระทำดังกล่าวอาจส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังดำดิ่งลงสู่ก้นเหว
การประกาศแสดงจุดยืนของนายกรัฐมนตรีกรีซในครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลกำลังเผชิญอุปสรรคในการควบคุมตัวเลขดุลบัญชีให้ลดลงมาอยู่ต่ำกว่าเพดาน 3% ของตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างพากันวิตกกังวลต่อปัญหาหนี้ในยุโรป ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงในขณะนี้
ขณะเดียวกัน ผู้นำกลุ่มประเทศยุโรปเตรียมเข้าประชุมกันในวันพฤหัสบดีนี้เพื่อหารือถึงแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังจากที่กรีซเผชิญปัญหาขาดดุลงบประมาณมหาศาล ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของกรีซพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้จุดกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหายอดขาดดุลที่กำลังลุกลามไปยังสเปนและโปรตุเกส
อย่างไรก็ตาม กรีซมองว่าปัญหาขาดดุลงบประมาณยังต้องรอการแก้ไข ขณะที่รายได้จากการจัดเก็บภาษีในเดือนที่ผ่านมาอาจพุ่งสูงเกินคาด โดยนายกรัฐมนตรีกรีซเผยว่าแผนกำหนดดุลบัญชีงบประมาณของกรีซอาจได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีคลังยุโป ซึ่งเขาเตรียมเปิดเผยแผนยกเครื่องระบบภาษีของกรีซ ที่กำหนดให้มีการจัดเก็บภาษีสูงสุด 40% ของประชาชนที่มีเงินได้เริ่มต้น 75,000 ยูโรต่อปี
ทั้งนี้ กรีซ โปรตุเกส และสเปน กำลังเผชิญปัญหาด้านปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ท้าทายอย่างมาก ขณะที่อิตาลีและเบลเยี่ยมก็เริ่มแสดงถึงความวิตกกังวลบ้างแล้ว โดยกระทรวงคลังอิตาลีกล่าวว่ารัฐบาลต้องคงการใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเผชิญกับอุปสรรคต่างๆ