ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐในเดือนม.ค.มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตเป็นกำลังสำคัญต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจปรับตัวลดลง
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือนม.ค.จะขยายตัวได้สูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ระดับ 1.5% ซึ่งจะเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากระดับ 1% ในเดือนก่อนหน้านี้
โรงงานหลายแห่งเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อกระตุ้นสต็อกสินค้าและรองรับความต้องการจากทั่วโลกที่แข็งแกร่งขึ้น แต่การใช้จ่ายผู้บริโภคที่ยังซบเซาและยอดขายบ้านที่ปรับตัวลดลงยังเป็นสัญญาณที่ทำให้นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป
ดัชนีภาคการผลิตของสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐในเดือนม.ค.สามารถขยายตัวได้เร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2547 ซึ่งภาคการผลิตมีสัดส่วน 12% ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคการผลิตได้เพิ่มการจ้างงาน 11,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งนับเป็นการเพิ่มการจ้างงานครั้งแรกในรอบ 3 ปี และเป็นระดับที่เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2549 ส่วนการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนม.ค.ลดลง 20,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 9.7% ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 460,000 ตำแหน่ง จากระดับ 473,000 ตำแหน่งในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนในเวลา 08:30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย